PTTOR กับการยกระดับรายได้ฝั่ง Non-Oil และแผน IPO ที่ยังเดินหน้าอยู่เหมือนเดิม

หลังแยกออกมาจากปตท. ทางบมจ.ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก หรือ PTTOR ก็เร่งขยายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน หรือ Non-Oil ส่วนแผน IPO แม้จะช้ากว่ากำหนด แต่ก็เดินหน้าเหมือนเดิม

pttor
สถานีบริการน้ำมัน PTT Station

ทุกอย่างคือเรื่องที่เราคุ้นเคย

ปัจจุบันความเคลื่อนไหวของ PTTOR นั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขยายสถานีบริการน้ำมัน, การเปิดร้านกาแฟ Amazon รวมถึงการรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เรียกว่าต่างกับช่วงที่ยังไม่ได้แยกจากกลุ่มปตท. อย่างชัดเจน แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัว และความจริงจังในการเดินหน้าธุรกิจของ PTTOR

จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ PTTOR เล่าให้ฟังว่า การเดินหน้าธุรกิจของ PTTOR นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะบริษัททำมากว่า 40 ปีภายใต้ความเป็นองค์กรปตท. แต่การเดินหน้าภายใต้ PTTOR จะเป็นการเพิ่มความเข้มข้นในแต่ละธุรกิจมากขึ้น

pttor
จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ PTTOR

“สิ่งที่เกี่ยวกับน้ำมันเราทำมาค่อนข้างดีอยู่แล้ว ผ่านการเร่งขยายสถานีบริการน้ำมันเป็นกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ ส่วนตัวธุรกิจ Non-Oil ต่างๆ เราก็ทยอยเพิ่มความแข็งแกร่ง ทั้งการนำเข้าธุรกิจใหม่ๆ และการนำนวัตกรรมต่างๆ มาพัฒนาธุรกิจดั้งเดิม และตัวใหม่ให้ดียิ่งขึ้น”

3 กลุ่มธุรกิจหลักของ PTTOR

สำหรับธุรกิจ PTTOR ประกอบด้วย

  1. กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ประกอบด้วยสถานีบริการน้ำมัน, ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น, บริการยานยนต์ และคลัง กับระบบขนส่งน้ำมัน
  2. กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้า และบริการอื่นๆ ประกอบด้วยร้านค้าสะดวกซื้อ, ร้านกาแฟ และเครื่องดื่ม, ร้านที่ซื้อแฟรนไชส์มา และธุรกิจบริหารพื้นที่เช่า
  3. กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ ประกอบด้วยสถานีบริการน้ำมัน, ค้าปลีก และอื่นๆ ที่อยู่ในฟิลิปปินส์, กัมพูชา และเมียนมาเป็นต้น

pttor

“ถ้าพูดถึงเรื่องธุรกิจน้ำมัน ตัวสถานีบริการน้ำมันเราก็เป็นเบอร์หนึ่งมา 26 ปี รวมถึงฝั่งผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และการขายน้ำมันกับลูกค้าระดับองค์กร เช่นสายการบิน ส่วนกลุ่มค้าปลีกนั้นเราก็ทำมานานจนมีประสบการณ์ และสามารถนำทั้งสองเรื่องมาประกอบกันเพื่อรุกตลาดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย”

ทั้งนี้ก่อนที่ PTTOR จะแยกตัวออกมาจากบมจ.ปตท. ตัวรายได้ของ PTTOR จะแบ่งเป็น 70% มาจากธุรกิจน้ำมัน และที่เหลืออีก 30% มาจากธุรกิจค้าปลีกสินค้า และบริการอื่นๆ กับธุรกิจในต่างประเทศรวมกัน แต่จากนี้ตัวสัดส่วนฝั่งค้าปลีกสินค้า และบริการอื่นๆ รวมถึงธุรกิจในต่างประเทศจะกินสัดส่วนมากกว่าเดิม

pttor

นวัตกรรมสร้างการเติบโตในอนาคต

“เรื่องแผนธุรกิจ และสัดส่วนรายได้ในอนาคตเรายังเปิดเผยไม่ได้ในตอนนี้ เพราะเตรียมเข้า IPO ตามเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มแยก PTTOR ออกมาจากปตท. ดังนั้นที่เราบอกได้ตอนนี้คือการลงทุนเรื่องนวัตกรรมเพื่อยกระดับการทำธุรกิจของเราในส่วนต่างๆ ให้เติบโตได้อีกในอนาคต”

ตัวอย่างที่ PTTOR นำนวัตกรรมมาใช้งานคือ สถานีบริการน้ำมันในจังหวัดสระบุรีที่ย่านนั้นมีการเติมน้ำมันดีเซลเยอะ และประเภทรถยนต์ที่เข้ามาใช้บริการก็คือรถบรรทุก ทำให้ PTTOR ตัดสินใจปรับรูปแบบสถานีบริการน้ำมันใหม่ทั้งหมด เน้นที่ความเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า เช่นจุดพัก และจุดตรวจเช็คความเหนื่อยล้าเป็นต้น

amazon
ร้านกาแฟ Amazon

ขณะเดียวกัน PTTOR ยังแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้สถานีบริการน้ำมันครบวงจรยิ่งขึ้น เช่นธุรกิจโรงแรม นอกจากนี้ยังเตรียมขยายธุรกิจในเครือออกนอกสถานีบริการน้ำมันเช่นเดียวกัน เพราะต้องการเพิ่มรายได้จากฝั่งธุรกิจค้าปลีก และต่างประเทศมากขึ้นตามแผน

สรุป

PTTOR คือเบอร์หนึ่งเรื่องสถานีบริการน้ำมันอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมีกว่า 1,800 แห่งทั่วไทย นอกจากนี้ฝั่งค้าปลีกก็มีธุรกิจร้านกาแฟ Amazon ที่ตอนนี้มี 2,800 สาขาทั่วประเทศเป็นเรือธง และเหตุที่เติบโตได้เร็วก็มาจากกลยุทธ์แฟรนไชส์ที่ 80% ของสาขาต่างๆ บริหารโดยคู่ค้า ดังนั้นต้องจับตาดูกันว่าหลังเข้า IPO แล้ว PTTOR จะเติบโตได้อีกแค่ไหน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา