Porsche ทุ่ม 2.3 แสนล้านบาทลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมเขี่ย Tesla ตกบัลลังก์ EV หรู

หลังจากนี้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electronic Vehicle) จะเดือดขึ้นแน่ๆ เพราะ Porsche ประกาศลงทุนกว่า 6,000 ล้านยูโร (ราว 2.3 แสนล้านบาท) เพื่อผลิต และวางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มระบบภายในปี 2565

Porsche Mission E EV Luxury Concept
ภาพ Concept ของ Porsche Mission E // ภาพจาก Porsche

เพิ่มเงินลงทุนเท่าตัว หวังเร่งถูกเวลา

ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาที่ถูกต้องในการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง เพราะความเข้าใจ และการรับรู้ของผู้บริโภคนั้นมีมากขึ้น จึงไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้ทาง Mercedes-Benz ได้ประกาศลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อปรับโรงงานในรัฐอลาบามาให้พร้อมในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

และผู้เล่นรายที่ประกาศทุ่มเงินต่อจากค่ายดาวสามแฉกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “เจ้าชายกบ” หรือ Porsche ค่ายรถสปอร์ตหรูจากเยอรมันนี่เอง โดยในปี 2560 ได้เคยประกาศไว้ว่าเตรียมใช้งบประมาณราว 3,000 ล้านยูโร (ราว 1.1 แสนล้านบาท) เพื่อผลิต และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แต่ด้วยตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็วทำให้ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้น 2 เท่า

Oliver Blume ประธาน Porsche ย้ำว่า การเพิ่มเงินลงทุนที่ประกาศเมื่อปีก่อน 3,000 ล้านยูโร เป็น 6,000 ล้านยูโรในปีนี้ เป็นการตัดสินใจที่คิดว่ามาถูกทางแล้ว และเม็ดเงินดังกล่าวจะถูกจัดแจงไปในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อผลิต และจำหน่ายให้ได้ภายในปี 2565

Tesla Model S Website
Tesla Model S

โค่น Tesla แบบเฉือดนิ่มๆ

สำหรับเม็ดเงินดังกล่าวจะแบ่งออกเป็นพัฒนารถยนต์ตระกูล Mission E หรือรถยนต์ซีดานประสิทธิภาพสูงที่ใช่เครื่องยนต์ไฟฟ้า อีกส่วนจะใช้ไปกับพัฒนารถยนต์ Hybrid รวมถึงการขยายสิ่งอำนวยความสะดวกในการพัฒนาเพิ่ม และที่เหลือจะนำมาลงทุนเกี่ยวกับสถานีชาร์จ ซึ่งทั้งหมดน่าจะมีความหมายเดียวคือโค่น Tesla

เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่า Tesla อยู่บนห่วงโซ่สูงสุดของภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู ผ่านรุ่น Model S และ Model X แต่ตัวรถยนต์ไฟฟ้าตระกูล Mission E ของ Porsche นั้นน่าจะได้ยลโฉมในปี 2562 ด้วยราคาประมาณ 75,000 ดอลลาร์ (ราว 2.3 ล้านบาท) แทบจะเท่ากับ Model S ของ Tesla เลยด้วย

ยิ่งประกอบกับสมรรถนะที่น่าจะวิ่งได้ 640-970 กม. ต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว และมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. ก็แทบจะไม่ต้องคิดเลยว่า ผู้บริโภคจะเลือกแบรนด์ไหน เพราะอย่างน้อยๆ Porsche ก็มีชื่อมาการันตีอยู่แล้วว่า ของเขาดีจริง และหากแบรนด์หรูทำรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาแข่งอีก Tesla ก็อาจต้องไปแข่งในตลาดรถบ้านธรรมดาก็ได้

สรุป

เชื่อว่าเศรษฐีไทย และต่างประเทศต้องมีกระเป๋าสั่นกันบ้าง เพราะด้วยแบรนด์ และรูปลักษณ์ก็เรียกได้ว่า “เจ้าชายกบ” มาเต็มๆ ส่วนเรื่องการวางจำหน่ายคงต้องรอไปยาวๆ ก่อน และหลังจากนี้น่าจะมีแบรนด์หรูอื่นๆ กระโจนเข้ามาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นแน่นอน

อ้างอิง // Business Insider, Porsche

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา