เวลานึกถึงรถสปอร์ต Porsche ก็เป็นอีกยี่ห้อที่อยู่ในความคิดของใครหลายคนแน่ๆ และเมื่ออยากได้รถแรงๆ เครื่องยนต์ดีเซลคงไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องนัก นั่นจึงเป็นที่มาของการเลิกทำตลาดเครื่องยนต์ดีเซลของผู้ผลิตรายนี้
หยุดดีกว่า เพราะกระแสโลกเริ่มไม่รับ
นอกจากเรื่องประสิทธิภาพที่เครื่องยนต์ดีเซล อาจสู้เครื่องยนต์เบนซินไม่ได้ในสายตาของ Porsche แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตจากเยอรมันรายนี้ตัดสินใจเลิกผลิต และจำหน่ายรถเครื่องยนต์ดีเซลก็คือเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะหลายประเทศเริ่มส่งนโยบายลดมลพิษจากการขับขี่บนท้องถนนมากขึ้น
“รถเครื่องยนต์ดีเซลถูกให้ความสำคัญเป็นอันดับที่ 2 รองจากรถเครื่องยนต์เบนซินตั้งแต่ที่ Porsche ทำตลาดมา และเมื่อกระแสโลกมันไปในทิศทางรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จะดีกว่าหรือไม่ถ้าเรามีแค่รถเครื่องยนต์เบนซิน กับรถยนต์ไฟฟ้า” Oliver Blume ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Porsche กล่าว
แม้จะเลิกทำตลาด แต่ Porsche ยืนยันว่าผู้ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลของบริษัทจะได้รับบริการหลังการขายอย่างดีต่อไป ขณะเดียวกันการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทก็จะจริงจังมากขึ้น ผ่านการลงทุนวิจัย และพัฒนาหลายพันล้านยูโร เพื่อตอบสนองกับภาพตลาดรถยนต์ที่เปลี่ยนไป รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคด้วย
อย่างไรก็ตามข่าวที่ Volkswagen บริษัทแม่ของ Porsche ถูกจับได้ว่าโกงค่าไอเสียตั้งแต่ปี 2540-2558 และถูกปรับเป็นเงินกว่า 1,000 ล้านยูโร (ราว 38,000 ล้านบาท) ก็ทำให้ภาพลักษณ์เครื่องยนต์ดีเซลแย่โดยอัตโนมัติ ประกอบกับ Porsche ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่ Audi อีกบริษัทลูกของ VW ผลิตให้ ก็น่าจะดีกว่าถ้าหยุดทำตลาดดีเซล
สรุป
เป็นอีกหลักหมุดสำคัญของวงการรถยนต์ เพราะเครื่องยนต์ดีเซลที่คิดค้นโดยเยอรมัน กำลังจะถูกค่ายรถยนต์จากเยอรมันหลายๆ แบรนด์ประกาศเลิกใช้ รวมถึงแบรนด์อื่นในตลาดโลกด้วย และ Porsche ก็น่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน
อ้างอิง // BBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา