“เป๊ปซี่” ชวนคนไทยมาร่วมกันแยกขยะ ตีแผ่เบื้องหลังความเชื่อเดิมๆ “แยกขยะไป คนเก็บก็เทรวมกันอยู่ดี?”

เป๊ปซี่ ชวนตามไปดูเส้นทางของการเก็บขยะ หลังจากที่พ้นมือเราไปแล้วต้องผ่านอะไรบ้าง แล้วความเชื่อของคนไทยที่มองว่าแยกขยะแล้วสุดท้ายคนเก็บขยะก็เทรวมกันอยู่ดี… จริงหรือไม่ ถ้าคนไทยหันมาแยกขยะกันมากขึ้นโลกจะดีขึ้นอย่างไร

จริงหรือที่แยกขยะไป แล้วคนเก็บก็เทรวมกัน?

เชื่อว่าคนไทยหลายคนยังมีทัศนคติต่อการทิ้งขยะที่ว่า “แยกขยะไป คนเก็บก็เทรวมกัน” เพราะได้เห็นรถขยะส่วนใหญ่ที่เก็บขยะตามบ้านก็จะรีบเทรวมกันไปก่อน ทำให้การแยกขยะจึงไม่เป็นผลเท่าที่ควร ไม่มีการแยกขยะเป็นรูปธรรมเสียที ผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงทำให้กระบวนการจัดการขยะ รวมถึงการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ (รีไซเคิล) ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

แต่เชื่อหรือไม่ว่าความเชื่อนี้มีความบิดเบือนอยู่ไม่น้อย เพราะแต่ละคนไม่ได้ไปเห็นกระบวนการแยกขยะของเหล่าบรรดาพี่ๆ คนเก็บขยะด้วยตัวเอง ด้วยเงื่อนเวลาที่จำกัดในการทำงานทำให้ต้องรีบเทรวมไปก่อน…แล้วค่อยมาแยกประเภททีหลัง ไม่ว่าจะเป็น ขยะเปียก ขยะอันตราย หรือขยะที่รีไซเคิลได้อย่าง กระดาษ พลาสติก แก้ว และโลหะ เป็นต้น

สุดท้ายก็ย้อนกลับมาที่พวกเราทุกคน เพราะว่าเกือบทุกบ้านไม่ได้แยกขยะเอาไว้ ทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาในการคัดแยกภายหลัง

ขอชวนทุกคนไปดูภารกิจของเหล่าฮีโร่ที่อยู่เบื้องหลังกองขยะกัน

ขยะคือหนึ่งในตัวการของปัญหาสิ่งแวดล้อม

ทุกวันนี้เราอาจจะได้ยินข่าวที่ไม่ค่อยสู้ดีนักเกี่ยวกับประเด็นสิ่งแวดล้อม ภาพเต่าทะเลที่ต้องตายเพราะถุงพลาสติกติดคอ หรือวาฬที่เกยตื้นเพราะท้องเต็มไปด้วยพลาสติก ขยะที่พวกเราสร้างนั้นเองที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบต่อบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ที่ต้องมารับกรรมแทนมนุษย์

แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีที่หลายภาคส่วนทั่วโลกเริ่มตื่นตัวต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง รวมไปถึงภาคเอกชนหรือแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ขยับตัวอย่างต่อเนื่องผ่านการประกาศนโยบาย และดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมในรูปแบบต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นการหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ หรือพัฒนาออกแบบนวัตกรรมสินค้าและบรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยส่งผลดีในวงกว้าง

หรือแม้แต่ในระดับตัวบุคคลเองก็เริ่มได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อย่างการพกถุงผ้า กระบอกน้ำสแตนเลส หรือหลอดสแตนเลส ปฏิเสธการสร้างขยะด้วยการลดละเลิกใช้ถุงหรือหลอดพลาสติก

เมื่อมาดูสถิติจากข้อมูลโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติพบว่า ประเทศไทยมีการสร้างขยะพลาสติกลงทะเลเป็นอันดับ 6 ของโลก แน่นอนว่าการไม่ใช้พลาสติกเลยคงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่ในเมื่อเรายังจำเป็นต้องใช้ การแยกประเภทขยะก่อนทิ้งลงถังเพื่อให้ขยะพลาสติกสามารถถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่ก็ถือเป็นหนึ่งในทางออกสำคัญที่ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกล้นโลกได้ แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่เราคนไทยยังมองข้ามกันอยู่

ร่วมแยกขยะแสดงน้ำใจ ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น

จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษระบุว่า ในปี 2560 ประเทศไทยมีปริมาณขยะรวมกันถึง 27.4 ล้านตัน ซึ่งหนักเทียบเท่ากับช้างถึง 13 ล้านตัว! แต่มีขยะเพียง 8 ล้านตันเท่านั้นที่ถูกนำกลับมารีไซเคิลใหม่

คำถามก็คือขยะมหาศาลเหล่านี้ ใครคือคนเบื้องหลังที่จัดการมันแทนเราอยู่?

จะดีกว่ามั้ย ถ้าพวกเราคนไทยทุกคนจะร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน แค่เริ่มจากการแยกขยะตั้งแต่ที่บ้าน แยกขยะตามประเภท ไม่ว่าจะเป็น แก้ว พลาสติก กระดาษ ขยะมีพิษ เศษอาหารหรือขยะเปียก เพื่อให้การทำงานของพี่ๆ คนเก็บขยะง่ายขึ้นมาก ไม่ต้องมาเสียเวลาแยกขยะที่ยังรีไซเคิลได้ออกจากเศษอาหารเน่าเสีย ทั้งยังช่วยเพิ่มปริมาณการนำขยะกลับไปรีไซเคิลได้มากขึ้นด้วย

นี่เองจึงเป็นที่มาของแคมเปญ #ขอบคุณทุกคนที่แยกขยะ ที่เป๊ปซี่ อยากชวนให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการแยกขยะ ผ่านคนเบื้องหลังที่ช่วยจัดการขยะแทนพวกเรา

โดยแคมเปญนี้ถือเป็นการต่อยอดความตั้งใจของแบรนด์เป๊ปซี่ ที่มุ่งรณรงค์ให้ประชาชนทุกคนตระหนักถึงความสำคัญและมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของโลกด้วยการคัดแยกขยะและการรีไซเคิล นอกเหนือจากโครงการ Pepsi Recycle For Now” ที่ได้ร่วมกับ “วงษ์พาณิชย์” ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจบริหารจัดการขยะรีไซเคิล ซึ่งส่งเสริมการคัดแยกขยะ โดยเฉพาะประเภทขวด PET ที่ใช้แล้วเพื่อเข้าสู่วงจรการรีไซเคิลอย่างเป็นระบบ ภายใต้แนวคิด P.E.T. (Promotion : Education : Training) ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2556

คลิปวิดีโอดังกล่าวได้แสดงถึงเบื้องหลังการทำงานของพี่ๆ เจ้าหน้าที่เก็บขยะ โดยได้เฉลยสิ่งที่ทุกคนสงสัยกันมาตลอดว่าจะแยกขยะทำไม ในเมื่อเก็บรวมกัน ทำให้เราได้เห็นถึงการเดินทางของขยะหลังจากออกจากบ้านเราไปแล้ว

ทุกวันนี้คนตัวเล็กๆ อย่างคนเก็บขยะเพียงไม่กี่คนต้องจัดการกับขยะปริมาณมหาศาลของคนทั้งประเทศ ซึ่งพวกเราทุกคนก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือได้ด้วยการแยกขยะมาตั้งแต่ที่บ้านของเรา ก็จะช่วยให้พวกเขาจัดการกับขยะได้ง่ายขึ้น

สรุป

วันนี้…ประเด็นสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว เพราะธรรมชาติได้เริ่มส่งสัญญาณเพื่อให้บทเรียนกับมนุษย์ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกเราจะเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อช่วยยืดอายุโลกของเรา เพียงเริ่มต้นจากเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันอย่างการแยกประเภทขยะภายในบ้าน

เพราะพลังเล็กๆ ของพวกเราทุกคนสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา