โดย บรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง
ทุกปีที่หลักทรัพย์บัวหลวงจะมีการเปิดรับน้องๆ นักศึกษาให้เข้ามาฝึกงานเป็นกลุ่มที่บริษัทอยู่ต่อเนื่อง โดยน้องๆ จะได้หมุนเวียนไปเรียนรู้ตามหน่วยธุรกิจต่างๆ ในบริษัทเพื่อที่จะได้มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจและผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากขึ้น จะได้เป็นการปูพื้นเบื้องต้นสำหรับผู้ที่สนใจงานด้านการเงินหรือสำหรับบริหารเงินออมของตนเองในอนาคตได้ด้วย และช่วงปลายของการฝึกงานทีมงานก็ได้จัดให้น้องๆ ได้ทำงานโปรเจคที่เรามอบหมายให้และนำเสนอความคิดต่อผู้บริหารเพื่อเป็นแสดงผลงานความรู้ความเข้าใจจากประสบการณ์ที่ใช้เวลาฝึกงานกับเรา ซึ่งโจทย์ในปีนี้คือ “คนรุ่นใหม่สนใจลงทุนอะไรกัน” เพื่อให้เขาลองหาคำตอบหลังจากที่ได้มาฝึกงานที่เรา
เบื้องต้น น้องๆ ได้นำเสนอว่าคนรุ่นใหม่นี่เขาสนใจเรื่องของการออมเงินและการลงทุนเพื่อให้งอกเงยมากกันแล้วนะ ทั้งนี้เพราะพวกเขาตระหนักถึง อิสรภาพทางการเงิน และความมั่นคงในอนาคตของตนเอง และที่น่าสนใจ คือ เขาพอรู้เป็นเลาๆว่า การรู้จักนำเงินเก็บไปลงทุนในหุ้นหรือในแบบอื่นๆ น่าที่จะสามารถทำให้เงินงอกเงยได้ ดังนั้นคนรุ่นใหม่จะพยายามเปิดรับต่อการเข้ามาเรียนรู้หาความรู้เพิ่มเติมเพื่อที่จะให้พอที่จะลงทุน “เป็น” ซึ่งดูจากตรงนี้แล้วเป็นแนวโน้มที่ดีครับ
ในขณะเดียวกัน ด้วยความที่คนรุ่นใหม่เกิดมาในยุคที่เทคโนโลยีมีผลต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมากและทุกสิ่งทุกอย่างหามาได้รวดเร็ว ทำให้น้องหลายๆ คนได้สะท้อนว่าคนรุ่นใหม่จึงต้องการรวยเร็วด้วยการลงทุน และด้วยความสามารถแบบ multi-tasking หรือชอบทำหลายสิ่งหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่า ไม่อยากใช้เวลากับสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากไปส่วนใหญ่จึงมองว่าไม่มีเวลาให้กับการลงทุนมากมายนัก เขาเลยต้องการอะไรที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนยุ่งยากเกิน ซึ่งฟังถึงตรงนี้แล้วชักเสียวแทนว่า หากถูกชักจูงไปลงทุนในทางที่ไม่ถูกต้องแล้วละก็ น่าจะสร้างความเสียหายให้คนรุ่นใหม่ได้ง่ายแน่ๆ
เขาเลยบอกต่อว่า ถ้าคิดเร็วๆ แล้วละก็เขาจะเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีมืออาชีพเข้ามาบริหารเพราะเป็นรูปแบบการลงทุนที่ง่ายดี ไม่ต้องคิดมากและตอบโจทย์ตามข้างต้น แต่ความคิดนี้เปลี่ยนไป จากการที่เขาได้มาฝึกงานกับพวกเราที่ทำให้เขารู้จักกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่เรียกว่า กองทุนรวม ETF หรือ Exchange Traded Fund เพราะแม้เขาจะสนใจลงทุนในกองทุนรวม แต่พอเขารู้ว่ากองทุนรวมอีทีเอฟมีความแตกต่างจากกองทุนรวมปกติตรงที่ กองทุนรวมอีทีเทฟ เป็นกองทุนรวมที่ถือหุ้นล้อตามหุ้นที่มีอยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ต่างที่กองทุนนั้นๆ อ้างอิง ทำให้โปร่งใสเขาจึงรู้สึกได้ง่ายว่า เขากำลังถือหุ้นอะไรอยู่ ผ่านกองทุนรวมอีทีเอฟ นอกจากนี้กองทุนรวมประเภทนี้จะมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่ากองทุนรวมทั่วไป ไม่ต้องใช้เงินมากก็ลงทุนได้ ลงทุนได้ระยะยาวไม่ได้มากังวลหุ้นเป็นรายตัว เพราะกองทุนรวมถือหุ้นหลายๆ ตัวช่วยกระจายความเสี่ยงในตัวเอง และที่สำคัญ คือ ติดตามดูราคาก็สะดวกและสามารถซื้อขายได้ตามราคาเรียลไทม์ที่ต้องการเลยผ่านการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งการจะเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นก็ไม่ใช่เรื่องลำบากยากเย็นอะไรสำหรับพวกเขา ทำให้หากเขาจะกำหนดชะตาชีวิตการลงทุนด้วยตัวเองเมื่อต้องการก็ทำได้โดยสะดวก โดยสรุปแล้วเขามองว่า การที่เขาพอมีความรู้ และสามารถมีทางเลือกลงทุนที่เขากำหนดเองได้ และทำได้โดยไม่ยุ่งยากอะไร ทำให้น้องๆส่วนใหญ่ที่ฝึกงานกับเรามองพ้องตรงกันว่ากองทุนรวม ETF นี่ล่ะ เป็นผลิตภัณฑ์ในฝันที่ตอบโจทย์ต่อไลฟ์สไตล์พวกเขาเลย!
ท้ายสุด น้องๆ ยังฝากโจทย์ทิ้งท้ายให้กับพวกเราไปคิดต่อว่า หากพี่ๆ ช่วยทำให้ความรู้ทางด้านการเงินแบบนี้แผ่ขยายมากขึ้นไปสู่คนรุ่นใหม่ได้ทั่วถึงจะมีประโยชน์มากเพราะถ้าพวกเขามีความรู้จะได้สามารถเลือกลงทุนในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ความรู้แบบนี้อาจไม่ได้หาได้ในห้องเรียนหรืออยู่ใกล้ตัวพวกเขาและหากไม่ได้มาฝึกงานก็คงไม่ได้มีโอกาสมาเพิ่มเติมความรู้เช่นนี้ ซึ่งจะว่าไปเราเองก็ต้องชื่นชมน้องๆ เช่นกัน… ที่ทำให้พวกเราเข้าใจว่าคนรุ่นใหม่มองการลงทุนอย่างไร และที่สำคัญ… เป็นการพิสูจน์ว่าการมีความรู้จากการแนะนำของเรามีส่วนช่วยให้เขามีการตัดสินใจลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา