สายการบินนกสกู๊ตประกาศที่จะปรับโครงสร้างสายการบินใหม่ หลังจากวิกฤติ COVID-19 ทำให้สายการบินต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อที่จะสามารถผ่านพ้นเวลาช่วงนี้ไปได้ คาดว่าอาจมีการลดจำนวนฝูงบินลง และลดพนักงาน
Facebook เพจ Outsider’s Aviation ได้รายงานว่า สายการบินนกสกู๊ต ได้เตรียมที่จะปรับโครงสร้างของสายการบินใหม่ หลังจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลต่อสายการบิน และโดยเฉพาะเส้นทางบินต่างประเทศที่เป็นธุรกิจหลักของสายการบิน ลูกค้านั้นไม่สามารถเดินทางได้จากมาตรการของประเทศต่างๆ ขณะที่ค่าใช้จ่ายของสายการบินนั้นมีอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ดีไม่มีการปิดสายการบินแต่อย่างใด
ทางด้าน Brand Inside ได้รับบันทึกข้อความบางส่วนที่ส่งให้พนักงาน กล่าวถึงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลต่อนกสกู๊ตที่มีเที่ยวบินส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน ซึ่งเป็นรายได้หลักของสายการบินราคาประหยัดแห่งนี้ แม้ว่าสายการบินเองจะมีมาตรการในการลดค่าใช้จ่ายเช่น ลดเงินเดือนผู้บริหารและพนักงานแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เพียงพอด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกันความพยายามดิ้นรนของสายการบินเพื่อเอาตัวรอดคือการใช้เครื่องบินของสายการบินขนส่งคาร์โก้สินค้าเพื่อที่จะมีรายได้มาหล่อเลี้ยง แต่รายได้ดังกล่าวก็ยังห่างไกลกับค่าใช้จ่ายของสายการบินที่มีอยู่ในแต่ละเดือน นอกจากนี้จากคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินนั้นมองว่าต้องใช้เวลา 2-3 ปีที่สายการบินจะกลับมาฟื้นตัวเท่ากับปี 2019
ข้อมูลจาก Filght Radar 24 นั้นปัจจุบันสายการบินมีเครื่องบินประจำการ 7 ลำ ขณะที่บันทึกข้อความของสายการบินได้กล่าวถึงว่าอาจต้องวางแผนจัดการเครื่องบินจำนวน 5 ลำใหม่ คาดว่าอาจมีการใช้เครื่องบินลดลง ซึ่งจะต้องมีการปรับลดพนักงานลงด้วย
อย่างไรก็ดียังไม่มีการแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ จาก Singapore Airlines ที่เป็นบริษัทแม่ของ Scoot รวมไปถึง
นกแอร์ ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันสายการบินนกสกู๊ต ถือหุ้นโดยนกแอร์ 51% และสายการบิน Scoot 49%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา