ร้านกาแฟหลายแห่งเริ่มปรับตัว ไม่ปล่อยสัญญาณ WiFi ให้ลูกค้าใช้แล้ว
ยุคหลังโควิด ชีวิตการทำงานของคนเปลี่ยนไปมาก บริษัทส่วนใหญ่ที่ออกกฎบังคับให้เข้าออฟฟิศตลอด เปลี่ยนเป็นเข้าทำงานแบบไฮบริด (ทำงานที่ออฟฟิศและที่บ้านได้บ้าง) แต่ล่าสุด บริษัทจำนวนมากเริ่มออกมาดันนโยบายให้คนกลับเข้าทำงานในออฟฟิศมากขึ้น แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ทำงานแบบ Remote Work อยู่
เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับร้านกาแฟ คาเฟ่จำนวนมาก
เนื่องจากพนักงานออฟฟิศจำนวนมากที่ใช้ชีวิตทำงานแบบ Remote work (การทำงานระยะไกล) มักใช้โอกาสจากการมาใช้บริการในร้านกาแฟเพื่อนั่งทำงานในร้านยาวนนานหลายชั่วโมง ทำให้กระทบกับยอดขายของร้านกาแฟจำนวนมาก ที่ต้องการให้มีการไหลเวียนของลูกค้ามากกว่าจะเห็นลูกค้าหน้าเดิมซ้ำๆ นั่งทำงานเป็นเวลานานๆ เพราะมันไม่ได้ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น แถมยังปิดโอกาสลูกค้าหน้าใหม่ให้เข้ามา
ด้วยเหตุนี้ จึงนำมาสู่นโยบาย การจำกัดชั่วโมงปล่อย WiFi, การไม่อนุญาตให้ใช้ WiFi ไปจนถึงจำกัดพื้นที่ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตรวมทั้งจำกัดการนำโน๊ตบุคหรือ Laptop เข้าทำงานในร้านด้วย สตาร์บัคส์ก็คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่ปรับตัว ด้วยการเปิดรับคนเข้าร้านแบบไม่ซื้อเครื่องดื่มในร้านได้น้อยลง
อย่างไรก็ตาม มีเคสตัวอย่างจากร้านกาแฟ Elle พบว่า หลังจากที่ DOGE มีการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก ก็พบเห็นลูกค้าที่นำ Laptop มาใช้งานในร้านกาแฟเพิ่มมากขึ้น จากการประเมินจากร้าน Elle พบว่า 80% ของผู้ที่นำ Laptop เข้ามาใช้ในร้านก็มาเพื่อหางานทำ หรือไม่ก็ทำเรซูเม่ รวมถึงสัมภาษณ์งานผ่าน Zoom ในร้านกาแฟด้วย กล่าวคือ คนรู้สึกเป็นมิตรที่จะทำกิจกรรมเหล่านี้ในพื้นที่ที่ 3 ที่ไม่ใช่บ้านและออฟฟิศ แต่เป็นร้านกาแฟ
ที่มา – AXIOS
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา