มองอนาคต Nike หลังปัญหารองเท้าขาดกลางศึกบาสฯ มหา’ลัย จนมูลค่ากิจการหายไป 62,000 ล้านบาท

เรียกว่าความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรกก็ได้สำหรับ Nike เพราะหลังเจอกระแสมุสลิมแบน ล่าสุดรองเท้าบาสเกตบอลก็ขาดกลางสนามแข่งบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา จนความเชื่อในแบรนด์เริ่มหาย

ปัญหามากมายที่กระทบความเชื่อมั่น

ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา Nike เผชิญกับวิกฤติต่างๆ มากมาย ทั้งเป็นการใช้ Colin Kaepernick นักกีฬาที่มีความคิดทางการเมืองที่แตกต่าง จนเจอกระแสต้าน, การได้สิทธิ์เป็นผู้สนับสนุนเสื้อกีฬาให้กับลีกบาสเกตบอล NBA แต่เสื้อก็ขาดได้อย่างง่ายดายในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาล และต้นปีก็ถูกมุสลิมแบนเพราะมีคำว่า “อัลเลาะห์” ใต้รองเท้า

แม้ว่าวิกฤติเหล่านี้บางตัวก็แก้ไขแล้ว หรือบางตัวก็ยังไม่สามารถทำได้ แต่ล่าสุด Nike ก็ต้องเจอกับวิกฤติใหม่อีกแล้ว หลังรองเท้าบาสเกตบอลที่ Nike เป็นผู้สนับสนุนให้กับทีมมหาวิทยาลัย Duke สวมใส่ดันมาขาดกลางสนามแข่งขัน และคนที่สวมใส่ก็เป็นอนาคต Draft อันดับหนึ่งฤดูกาลหน้าอย่าง Zion Williamson ด้วย

อย่างไรก็ตามถ้ามันแค่ขาดเฉยๆ เรื่องก็คงไม่ใหญ่ แต่เหตุการณ์นี้มันส่งผลให้ Zion Williamson เกิดอาการบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ด้วย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ามันเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก ทั้งส่งผลให้ภาพลักษณ์รองเท้าบาสเกตบอลของ Nike แย่ลงโดยอัตโนมัติแม้ว่าทางแบรนด์จะเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดรองเท้าบาสเกตบอลก็ตาม

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพียงหนึ่งวัน Nike ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กก็ปิดที่ราคาหุ้นลดลง 1% ทำให้ให้มูลค่ากิจการลดลง 2,060 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 62,000 ล้านบาท) แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมมั่นของนักลงทุนที่ลดลง เพราะมันอาจเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกก็ได้

Nike
ราคาหุ้นของ Nike ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

สำหรับตัว Zion Williamson เองได้รับการบาดเจ็บเไม่มากนัก แต่อาการบาดเจ็บครั้งนี้อาจส่งผลให้อนาคต Draft อันดับหนึ่งคนนี้ไม่สามารถกลับมาเล่นบาสเกตบอลได้ในประสิทธิภาพเท่าเดิม เพราะความไม่มั่นใจ และกังวลเกี่ยวกับเรื่องอาการบาดเจ็บที่อาจจบชีวิตนักกีฬาของเขาได้

สรุป

รองเท้าที่ Zion Williamson สวมใส่คือรุ่น PG 2.5 หรือรองเท้ารุ่นที่ Paul George นักบาสเกตบอลระดับ All-Star ของ NBA ร่วมออกแบบ เล่นเอาเจ้าตัวเกิดข้อสงสัยว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ได้ เพราะนอกจาก Nike ที่เสียประวัติแล้ว ตัว Paul เองก็ต้องโดนอะไรสักอย่างแน่ๆ ดังนั้นคงต้องจับตาดูต่อไปว่าวิกฤติครั้งนี้จะจบลงเช่นไร

อ้างอิง // Japan Today, ABC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา