รู้จัก MUMUSO ไลฟ์สไตล์ช้อปจากจีน แต่สร้างแบรนด์สไตล์เกาหลี

MUMUSO เป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ล่าสุดที่บุกไทย ยืนยันตัวตนชัดเจนว่ามาจากจีน แต่ชูคอนเซ็ปต์สินค้าสไตล์เกาหลีเพื่อสร้างแบรนด์ให้ซอฟท์ลง ใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมืองเริ่มจากต่างจังหวัด พร้อมเข้าเมืองกรุง

อุดจุดอ่อนความจีน ด้วยความเกาหลี

ยังคงร้อนแรงอย่างมากสำหรับร้านค้ารูปแบบของไลฟ์ไสตล์ช้อป มีจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย ในปีที่ผ่านมามีผู้เล่นรายใหม่ๆ บุกประเทศเพียบ ทั้งจากต่างประเทศ และผู้เล่นในไทยเอง ด้วยเทรนด์ของผู้บริโภคที่ชื่นชอบร้านค้าแบบนี้ ให้ความรู้สึกว่าเป็น One Stop Shopping

ในปีนี้ได้มีอีกหนึ่งแบรนด์น้องใหม่เข้ามาในไทยก็คือ MUMUSO (มูมูโซ) แต่ได้ออกตัวเลยว่าเป็นแบรนด์จากประเทศจีน ไม่มีการอ้อมค้อมว่ามีต้นกำเนิดจากที่อื่น เพียงแต่ว่าใช้การสื่อสารการทำตลาดด้วยว่าเป็นสินค้าในคอนเซ็ปต์ “เกาหลี” เพื่ออุดจุดอ่อนช่องว่างที่คนมองภาพลักษณ์แบรนด์จีนไม่ค่อยดีเท่าไหร่

MUMUSO เริ่มก่อตั้งในปี 2014 ที่เซียงไฮ้ และได้ขยายสาขาสู่ต่างประเทศอย่างรวดเร็ว เช่น โซนอเมริกาใต้ รัสเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ปัจจุบันมี 600 สาขา ในกว่า 150 เมืองทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยได้เข้ามาทำตลาดเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานี้เอง เริ่มเปิดสาขาแรกที่เดอะมอลล์ โคราช

ผู้ได้รับสิทธิ์บริหารก็คือ บริษัท มูมูโซ (ประเทศไทย) จำกัด แต่เดิมได้ทำธุรกิจอื่นๆ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ร้านอาหาร แต่ได้เดินทางไปเห็นร้าน MUMUSO จึงมีความสนใจที่จะนำเข้ามาในไทย

ปกรณ์ ศุภวราพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ บริษัท มูมูโซ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า

“จริงๆ ที่จีนมีร้านค้าสไตล์แบบนี้เยอะรวมๆ แล้ว 20 กว่าแบรนด์ แต่ที่เลือก MUMUSO เพราะมีการเติบโตเร็ว เพิ่งทำตลาดเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น และมีราคาจับต้องได้ถูกกว่าตลาด พอสนใจก็ได้ทำการพูดคุยกันประมาณครึ่งปี ซึ่งทางบริษัทแม่ก็สนใจตลาดประเทศไทยอยู่แล้ว พอมาทำตลาดก็มาปรับภาพลักษณ์ด้วยการสื่อสารว่าเป็นคอนเซ็ปต์เกาหลี เพราะด้วยทัศนคติของคนไทยที่มีต่อแบรนด์จีนไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ได้ปิดบังว่าไม่ใช่แบรนด์จีน จริงๆ ประเทศจีนตอนนี้ขึ้นชื่อเรื่องการพัฒนาสินค้า ทำให้มีสินค้าคุณภาพดี ราคาจับต้องได้”

เป็น Lifestyle Shop ไม่ใช่ร้านราคาเดียว!

ร้าน MUMUSO ได้วางจุดยืนว่าเป็นไลฟ์ไสตล์ช้อป ซึ่งมีคู่แข่งโดยตรงก็คือ MINISO เพื่อนร่วมชาติเดียวกัน และแบรนด์ไทยอย่าง Moshi Moshi ร้านค้ากลุ่มนี้จะมีสินค้าหลายกลุ่ม ราคาที่หลากหลายขึ้นอยู่กับแบรนด์จะตั้งราคา จะคนละเซ็กเมนต์กับร้านราคาเดียวอย่าง Daiso, Komonoya, just buy, Arcova, โคตูยะ และ Can do ที่เป็นโมเดลร้าน 100 เยน หรือ 1 ดอลลลาร์

เมื่อดูภาพรวมตลาดในกลุ่ม Specialty Store ที่รวมร้านค้าไลฟ์สไตล์ และร้านราคาเดียว ร้านกิฟท์ช้อฟในไทยตั้งแต่ปี 2017 มีการเติบโตถึง 23% หรือมีมูลค่า 46,000 ส่วนกลุ่มไลฟ์สไตล์ช้อปเติบโต 12%

โดยร้านแบบไลฟ์สไตล์ช้อปเป็นเทรนด์ที่มาแรง เพราะเป็นเซ็ปเมนต์ที่มาใหม่ มีสินค้าหลายแบบ ดีไซน์ที่เรียบง่าย ราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเวลาเลือกสินค้า เพราะที่ผ่านมาคนไทยคุ้นเคยกับร้านราคาเดียวมาตลอด เข้าไปเจอแต่สินค้าราคาเดียวกัน ดีไซน์ใกล้ๆ กัน

ราคาเริ่มต้น 39 บาท

เรื่องราคาก็เป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งของร้านไลฟ์สไตล์ช้อป MUMUSO ตั้งราคาเริ่มต้นที่ 39 บาท ไปจนถึงพันกว่าบาท โดยที่ราคาที่ขายดีที่สุดจะอยุ่ที่ 69-100 บาท เป็นราคากลางๆ จับต้องได้ ปัจจุบันมีสินค้าทั้งหมด 3,000 รายการ ครอบคลุม 8 กลุ่ม ได้แก่ สินค้าเด็ก เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน ไอที กระเป๋า เครื่องเขียน สกินแคร์ และเครื่องสำอาง

โดยที่กลุ่มสินค้าของใช้ในบ้านขายดีที่สุด มีสัดส่วนสินค้า 50% รองลงมาคือสินค้าความสวยความงาม พวกสกินแคร์ และเครื่องสำอาง ตอนนี้มีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อบิลอยู่ที่ 300 บาท

ป่าล้อมเมือง เตรียมเข้าเมืองกรุง และไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้างฯ

ปัจจุบัน MUMUSO มีสาขารวม 7 สาขา เป็นสาขาที่บริหารเอง 6 สาขา ได้แก่ เดอะมอลล์ โคราช, สุพรรณบุรี, บางแสน ชลบุรี, สมุทรสาคร, อยุธยา และสยามสแควร์วัน กรุงเทพฯ มีร้านที่เป็นโมเดลแฟรนไชส์แห่งแรกที่พิษณุโลก

จะสังเกตว่าในทั้ง 7 สาขามีเพียงสาขาเดียวที่อยู่ในกรุงเทพฯ เป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นที่ขยายสาขาในกรุงเทพฯ ก่อน แต่ MUMUSO เลือกที่จะใช้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” เพราะต้องการเจาะตลาดต่างจังหวัด เพื่อการขยายแฟรนไชส์ในอนาคต

ปกรณ์เสริมว่า “การเลือกโลเคชั่นก็เป็นกลยุทธ์หลัก เลือกที่จะเจาะตลาดต่างจังหวัดก่อน สาขาแรกเริ่มเปิดที่โคราช เพราะต้องการเรียนรู้พฤติกรรมของคนต่างจังหวัด คนหัวเมืองว่าเป็นอย่างไร ดูว่าจะทำตลาดต่อได้หรือไม่ รู้พฤติกรรมการเลือกสินค้า และได้รู้เซ็กเมนต์ของแต่ละกลุ่ม ซึ่งการเจาะตลาดต่างจังหวัดนี้ก็เพื่อการปูทางสู่การขยายธุรกิจในโมเดลแฟรนไชส์ด้วย ต่อไปจะมีมากขึ้น”

ซึ่งโลเคชั่นที่เลือกแต่ละที่ก็ไม่ได้จำกัดแค่ในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้าเหมือนแบรนด์อื่นๆ แต่เป็นพื้นที่ไหนก็ได้ที่มีคนเยอะๆ ริมถนน หรือคิวรถตู้ก็ได้ ถ้ามีทราฟฟิกมากเพียงพอ ร้านค้าจะมีพื้นที่ตั้งแต่ 80-200 ตารางเมตร ขึ้นอยู่กับพื้นที่

ตอนนี้ MUMUSO มีทราฟิกคนเข้าร้านเฉลี่ย 2,000 คน/วัน/สาขา มียอดขายเฉลี่ย 100,000 บาท/วัน/สาขา สาขาบางแสนที่อยู่ห้างแหลมทองเป็นสาขาที่ขายดีที่สุด

แผนการขยายสาขา ตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 20 สาขาภายในปี 2019 แบ่งเป็นบริหารเอง 10 สาขา และแฟรนไชส์ 10 สาขา และคาดว่าจะครบ 100 สาขาใน 5 ปี แบ่งสัดส่วนเป็นบริหารเอง 50% และแฟรนไชส์ 50%

สำหรับความท้าทายในการทำตลาดนี้นั้น ปกรณ์บอกว่า “ตลาดนี้เติบโตเร็ว แต่เทรนด์ก็ไปเร็ว ต้องมีการพัฒนาสินค้าอยุ่ตลอด เอาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาหมุนเวียนเหมือน Fast Fashion และมีสินค้าพิเศษสร้างความตื่นเต้น และต้องมีการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ทันสมัยอยู่ตลอด ให้เข้าถึงผู้บริโภค รวมถึงการทำ CRM เพื่อเอาบิ๊กดาต้ามาสื่อสารกับลูกค้า ทำให้สร้างลอยัลตี้กับลูกค้าด้วย”

สรุป

  • เทรนด์ของร้านไลฟ์สไตล์ช้อปยังได้รับความนิยมอยู่เรื่อยๆ เพราะมีความคุ้มค่า ราคาไม่แพง ทำให้เห็นหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาดในไทย แต่ต้องมีการสร้างแบรนด์ที่ดี สร้างจุดเด่นในการดึงดูด เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าสินค้ามาจากจีนเหมือนกัน มีความใกล้เคียงกัน ต้องมีลูกเล่นใหม่ๆ ที่โดนใจ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา