Muji ประเทศญี่ปุ่นเปิดให้เช่าเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องสวยๆ ในราคาเริ่มต้น 236 บาทต่อเดือน

Muji หนึ่งในแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ภายในบ้านที่เน้นความเรียบง่ายเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบ ตามสไตล์ความชอบแบบคนญี่ปุ่น เปิดตัวโมเดลธุรกิจแบบใหม่ๆ ให้เช่าเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งห้อง เพื่อตอบรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตในช่วง Work From Home ของคนญี่ปุ่น

ภาพจาก muji.com/jp

ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันจำนวนมาก บริษัทหลายๆ แห่งก็ยังให้พนักงาน Work From Home ต่อไปในช่วงนี้ แต่ด้วยความที่ลักษณะที่อยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นมักมีขนาดเล็ก โดยเฉพาะในโตเกียวที่อพาร์ทเม้นท์มีพื้นที่เฉลี่ยเพียง 700 ตารางฟุตเท่านั้น เฟอร์นิเจอร์จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความรู้สึกน่าทำงานได้

ภาพจาก muji.com/jp

Muji ในประเทศญี่ปุ่นจึงได้คิดค้นวิธีในการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ด้วยการให้เช่าเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งห้อง ในราคาเริ่มต้นเพียง 800 เยนต่อเดือน หรือประมาณ 236 บาทเท่านั้น โดยราคานี้จะเป็นราคาสำหรับเช่าชุดโต๊ะและเก้าอี้ไม้สำหรับนั่งทำงาน (ระยะเวลาการเช่า 4 ปี) แต่หากอยากจะเช่าเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ เช่น เก้าอี้โซฟาสำหรับห้องรับแขก หรือโต๊ะภายในห้องทานอาหารก็ได้เช่นกัน ซึ่ง Muji กำหนดสัญญาการเช่าระยะเวลาขั้นต่ำ 1-4 ปี เมื่อครบกำหนดแล้ว สามารถเลือกได้ว่าจะเช่าเฟอร์นิเจอร์ชุดนี้ต่อ จะซื้อขาด หรือจะส่งคืนเฟอร์นิเจอร์กลับไปให้ Muji ก็ได้

ภาพจาก muji.com/jp

นอกจากจะให้เช่าเฟอร์นิเจอร์แล้ว Muji ในประเทศญี่ปุ่นยังมีบริการให้คำปรึกษาในการรีโนเวท ปรับมุมเฟอร์นิเจอร์เดิม เพื่อหาพื้นที่ว่างสำหรับจัดเป็นพื้นที่สำหรับการทำงานอย่างลงตัว โดยจะเป็นการให้คำปรึกษาโดยดีไซน์เนอร์ผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ Muji สามารถออกแบบและติดตั้งฉากกั้นห้องเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการทำงาน ในราคา 88,000 เยน หรือประมาณ 25,972 บาท

อย่างไรก็การทำธุรกิจให้เช่าเฟอร์นิเจอร์ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์หลายแห่งให้บริการเช่าแทนการซื้อมานานหลายสิบปีแล้ว เพื่อรับกับพฤติกรรมของคนกลุ่ม Millennials ที่มีแนวโน้มย้ายที่อยู่อาศัยบ่อยๆ การซื้อเฟอร์นิเจอร์เป็นของตัวเองอาจไม่ตอบโจทย์เท่าการเช่า โดย iKea ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่เคยทดลองการให้เช่าเฟอร์นิเจอร์ ในบางประเทศเมื่อปีที่แล้ว

ที่มา – Fastcompany, Forbes

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา