จับตาอุตสาหกรรมเกมบนมือถือ! เมื่อราคาเฉลี่ยของโทรศัพท์ เป็นอีกปัจจัยในการเลือกเล่นเกม

ก่อนหน้านี้การพัฒนาเกมบนโทรศัพท์มือถือ นอกจากสนุกแล้ว ผู้พัฒนาอาจมองเรื่องภาพที่ต้องสวยงาม หรือมีรูปแบบการเล่นหลากหลาย แต่ปัจจุบันการทำเกมให้เหมาะกับราคาเฉลี่ยโทรศัพท์มือถือในแต่ละพื้นที่ก็เป็นอีกตัวแปรสำคัญ

free fire
Free Fire ของ Sea

Free Fire คือตัวอย่างที่ดี

ไม่ใช่แค่เกมบนโทรศัพท์มือถือแนว Casual หรือเกมที่เล่นง่าย เนื้อหาไม่เยอะ จะเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภค เกมแนว Battle Royale ก็เป็นอีกเกมที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในตอนนี้ แม้มันจะบูมแบบสุดๆ เมื่อ 2 ปีก่อนก็ตาม เนื่องจากความสนุกเร้าใจของผู้เล่น และยังมีหลายเกมถูกพัฒนาให้เล่นบนโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะ

แต่เกมที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนี้ก็คงไม่พ้น Free Fire ของ Sea (Garena เดิม) เพราะทางบริษัทเลือกเดินกลยุทธ์ที่แตกต่างกับผู้พัฒนาเกมรายอื่น นั่นคือการนำราคาเฉลี่ยของโทรศัพท์มือถือในประเทศต่างๆ มาวิเคราะห์ เพื่อออกแบบเกมให้เหมาะสมกับผู้เล่นในประเทศนั้นๆ มากที่สุด

เช่นในประเทศบราซิลที่ราคาเฉลี่ยของโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ 100-150 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,200-4,800) การจะให้เล่นเกม PUBG Mobile คู่แข่งที่บุกตลาดเกมแนว Battle Royale ก่อน Free Fire ก็เป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากเกมดังกล่าวต้องการโทรศัพท์มือถือประสิทธิภาพสูง ผ่านรายละเอียดในเกมที่มากกว่า

ฝั่งหนึ่งเพิ่ม อีกฝั่งลดประสิทธิภาพ

จากกลยุทธ์นี้เอง ทำให้ Free Fire สามารถมีผู้ชมแข่งขันรายการใหญ่ๆ ได้กว่า 2 ล้านผู้ชมพร้อมกันทั่วโลก รวมถึงขึ้นแทนเกมที่ผู้เล่นมีการจ่ายเงินสูงสุด (Top Grossing) ได้ในหลายประเทศที่ราคาเฉลี่ยของโทรศัพท์มือถือค่อนข้างต่ำ แสดงให้เห็นว่า ถึงผู้บริโภคจะใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นล่าง แต่ก็พร้อมจ่ายเงินภายในเกมหากเกมนั้นสนุกจริง

Thailand Game Expo
PUBG Mobile หนึ่งในเกมที่มีการจัดแข่งขันใน Thailand Game Expo

อย่างไรก็ตาม Free Fire คงจะหยุดแค่การให้บริการในกลุ่มผู้เล่นที่ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นเริ่มต้นไม่ได้ เพราะในอนาคตทางทีมงานน่าจะมีการพัฒนา Free Fire ที่ปรับปรุงกราฟฟิกให้ดีขึ้น ถ้าเรียกง่ายๆ ก็คือ “เวอร์ชั่นเต็ม” เพื่อเข้าถึงผู้เล่นอีกกลุ่มหนึ่ง ในทางกลับกัน เกมที่ทำกราฟฟิกออกมาเต็มที่อย่าง PUBG ก็น่าจะส่งเกมที่ลดทอนกราฟฟิกลงมา

อนาคตเกม Battle Royale ไม่จบง่ายๆ

ทั้งนี้เกมแนว Battle Royale เปิดตัวมาระยะหนึ่งแล้ว แต่กระแสความนิยมน่าจะไม่ตกลงง่ายๆ สังเกตจากยอดผู้เล่นของเกม Call of Duty: Warzone บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากเปิดตัว ดังนั้นก็อยู่ที่แนวคิดของผู้พัฒนาแล้วว่า จะวางตัวเกมให้เหมาะสมกับผู้เล่นกลุ่มใด เพื่อสร้างรายได้ระยะยาว

สรุป

Free Fire เป็นที่นิยมจริงๆ และน่าจะเป็นเกมที่สร้างรายได้ระยะยาวให้กับ Sea เพราะเป็นเกมที่ Sea พัฒนาขึ้นมาเอง ไม่ใช่ใช้วิธีซื้อสิทธิ์ในการทำตลาดเหมือนกับเกมอื่นๆ ก่อนหน้านี้ และหาก Sea ปรับเปลี่ยนเรื่องคุณภาพของตัวเกมให้มีมากขึ้น มันก็คงดึงผู้เล่นกลุ่มที่ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นเรือธงได้ไม่ยาก

อ้างอิง // The Esports Observer

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา