เข้าใจได้ว่าโควิด-19 ทำให้หลายๆ คนเหนื่อยล้า ‘ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์’ จึงเป็นที่พูดถึงมากขึ้น แต่เรื่องนี้นำมาใช้จริงได้มากแค่ไหน ลองมาฟังจากผู้มีประสบการณ์ตรง
เชื่อว่าถ้าพูดถึงการทำงานรูปแบบใหม่ในช่วงโควิด หลายๆ คนจะนึกถึงการ Work From Home แต่จริงๆ แล้วยังมีการทำงานอีกรูปแบบที่เป็นที่พูดถึงและมีการทดลองทำกันไปแล้วบ้างคือ “การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” ซึ่งแน่นอนว่านี่คือเรื่องใหม่ แถมยังดูมีความเป็นไปได้ต่ำเสียด้วย
วันนี้ Brand Inside จะพาไปถอดบทเรียนจาก MINIMAL Inc. บริษัทออกแบบที่เปิดทำการมาแล้วกว่า 14 ปี และที่สำคัญยังเคยร่วมงานกับบริษัทชื่อก้องโลกทั้ง Nike และ Motorola มาดูกันว่าพวกเขามีแนวคิดต่อการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ยังไงบ้าง
ทำไมต้อง ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์
Scott Wilson ผู้ก่อตั้งบริษัท MINIMAL บอกว่า สิ่งที่แปลกสำหรับโควิดก็คือ มันทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้ามาก ทั้งๆ ที่ตลอดเส้นทางการทำงานที่ผ่านมา เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนประเภทที่มีพลังงานหมุนเวียนอยู่ในตัวตลอดเวลา ขนาดวันที่เขาเหนื่อยที่สุดเขาก็สามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็วหลังจากนั้น
เขาก็เลยออกนโยบายใหม่ของบริษัทออกมา นั่นก็คือการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ไม่ต้องทำงานวันศุกร์อีกต่อไป
Wilson บอกว่า แนวคิดเรื่องการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ตั้งอยู่บนเรื่องของสุขภาวะทางอารมณ์และจิตใจ แต่จริงๆ แล้ว ก็มีเหตุผลแบบที่เป็นรูปธรรมอยู่เหมือนกัน
เขาเล่าว่า เวลาพักผ่อนแค่ 2 วันไม่สามารถทำให้เราพักผ่อนจนหายเหนื่อยได้มากขนาดนั้น โดยเฉพาะเมื่อโควิดระบาดทำให้ข้อบังคับต่างๆ ถูกยกมาใช้ เราเดินทางยากขึ้น ไม่สามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้อย่างสะดวก การพักผ่อนแค่ 2 วัน น้อยเกินไปสำหรับการพักผ่อน
ลองจินตนาการว่าหากผู้คนมีเวลาพักถึง 3 วัน เราจะใช้เวลาครึ่งวันในการขับรถถึงที่หมายก็ไม่เป็นปัญหาอะไรเพราะยังมีเวลาเหลือๆ ให้ได้พักผ่อน
ทำงานแค่ 4 วัน กระทบผลประกอบการบริษัทหรือไม่
Wilson กล่าวว่า บริษัทของเขาเป็นบริษัทเล็กๆ การทำงานได้น้อยลงแค่ 1-2 โปรเจ็กต์ก็มีผลต่อการเงินบริษัทอย่างมาก แต่ผลลัพธ์ก็คือ แม้จะลดเวลาการทำงานลง 1 วัน สิ่งที่เขากังวลก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
คำถามคือต้องทำอย่างไรให้ทุกคนสามารถทำงานออกมาได้เท่าเดิม ในชั่วโมงการทำงานที่ลดลง?
Wilson ให้คำตอบว่าจริงๆ แล้ว เขาไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงการจัดการหรือ flow การทำงานอะไรมากมาย ในทางกลับคนบรรดาพนักงานต่างจัดการตัวเองกันโดยอัตโนมัติ เขายังชี้ว่าจริงๆ แล้วปี 2020 แทบจะเป็นหนึ่งในปีที่บริษัทมีผลงานดีที่สุดด้วยซ้ำ เพราะทุกคนทำงานกันหนักขึ้น จดจ่อกับงานมากขึ้น ละเอียดมากขึ้น แถมผลลัพธ์สุดท้ายของงานก็ออกมาดีแบบไม่เคยเห็นมาก่อน
ที่มา – Fast Company
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา