ทำไม 1 สัปดาห์ต้องทำงาน 5 วัน?
ปัจจุบันอังกฤษควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ สังคมเริ่มหันกลับไปพูดและตั้งคำถามถึงชีวิตการทำงานอีกครั้งแล้ว โควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องทำงานจากที่บ้าน ได้ทำงานภายใต้เวลาที่ยืดหยุ่น จนในที่สุดก็ได้เข้าใจว่าประเด็นสำคัญของการทำงานไม่ใช่ทำงานได้กี่ชั่วโมง แต่เป็นสร้างงานออกมาได้มากเท่าไหร่
ในอังกฤษจึงเริ่มมีการเสนอเกี่ยวกับการทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ โดยไม่หักเงินเดือน มีหน่วยงานต่างๆ ทำการศึกษาและรณรงค์ให้ทดลองริเริ่มการทำงานในรูปแบบใหม่นี้
ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ ลดคาร์บอนพอๆ กับการเลิกการใช้รถยนต์ส่วนตัวทั้งหมด
การศึกษาร่วมกันของ 4 Day Week Campaign ความเคลื่อนไหวเรียกร้องการทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ และ Platform London องค์กรด้านสิ่งแวดล้อม ยกเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อมมารองรับการทำงานแบบใหม่เพื่อโน้มน้าวให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
การศึกษาดังกล่าวระบุว่า หากเริ่มต้นการทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ ได้ภายในปี 2025 จะช่วยลดการใช้พลังงานในออฟฟิศและระบบขนส่งได้มหาศาล ตีเป็นตัวเลขคือลดคาร์บอนได้กว่า 127 ล้านตัน
หรือพูดง่ายๆ คือ 20% ของการปล่อยก๊าซทั้งหมด เทียบเท่ากับการยกเลิกการใช้รถยนต์ส่วนตัวทั้งหมดในอังกฤษ
งาน 4 วัน/สัปดาห์ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่เป็นประเด็นที่กำลังถูกผลักดัน และได้รับความสนใจจากสังคม
แนวคิดดังกล่าวไม่ใช่เรื่องหลักลอยหรือเพ้อฝัน หลายๆ ที่ได้ทดลองริเริ่มหาความเป็นไปได้ในโครงการดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสเปน สก็อตแลนด์ ไปจนถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Unilever ในประเทศนิวซีแลนด์
นอกจากนี้ มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษหลายคนสนับสนุนประเด็นนี้เช่นกัน แถมมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาพยายามชี้ให้สังคมเห็นว่าการทำงาน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์ มีประโยชน์หลายด้าน
Caroline Lucas สส. อังกฤษจากพรรคกรีนกล่าวว่า การทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนอย่างมาก ช่วยพัฒนาสุขภาพ (ทั้งกายและใจ) ของผู้คน แถมยังทำให้คนได้กลับไปสู่สังคมและชุมชนมากขึ้น
ทำงาน 4 วันไม่ได้ช่วยแค่สิ่งแวดล้อม แต่พัฒนาคุณภาพสังคมด้วย
1. เพิ่มการจ้างงาน
การวิจัยของ Autonomy สถาบันคลังสมองหัวก้าวหน้าระบุว่า การทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ ในภาคเอกชนจะช่วยสร้างงานเพิ่มได้ถึง 5 แสนตำแหน่ง ช่วยลดการว่างงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงโควิด
2. ช่วยให้สุขภาพทางกายและใจดีของผู้คนดีขึ้น
รายงานของ Autonomy เสนอว่า เอกชนควรลองปรับใช้แนวทางดังกล่าว เพราะมีแนวโน้มว่าการทำงานน้อยลงช่วยลดความตึงเครียด ภาวะหมดไฟ ปัญหาสุขภาพจิตที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงาน และปัญหาสมดุลชีวิตการทำงาน โดยในเรื่องนี้ รายงานของ 4 Day Week Campaign มีผลการศึกษาที่ชี้ไปในทางเดียวกัน
- มายาคติ Work-Life Balance ที่เราอาจเข้าใจผิด
- Languishing คืออะไร ภาวะเนือยๆ ที่ไม่ได้หมดไฟ ไม่ใช่ซึมเศร้า
- ปัญหาใหญ่ของอุตสาหกรรมที่ปรึกษา (Consultant) พนักงานหมดไฟ
3. ช่วยสร้างครอบครัว ชุมชน และสังคมที่เข้มแข็งขึ้น
หนึ่งในปัญหาของสมัยนี้คือการที่คนต้องโฟกัสกับงานตลอดเวลา ขาดการกลับเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในชุมชนเดียวกันหรือแม้แต่คนใกล้ตัว ไม่น่าแปลกใจเลยที่การลดเวลาทำงานลงหนึ่งวันจะช่วยเพิ่มโอกาสคืนคนกลับสู่สังคม
Laurie Mompelat นักวิจัยของ Platform London กล่าวว่า การปรับไปสู่การทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ จะช่วยสร้างคุณค่าในสังคมขึ้นมาใหม่ สังคมจะกลายเป็นพื้นที่ของความห่วงใย การประโลมใจ และความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น
[opinion] เมื่อคนตระหนักว่าประเด็นสำคัญคืองานที่ทำได้ (ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ) ไม่ใช่จำนวนชั่วโมงการทำงาน การหยิบประเด็นการลดเวลาทำงานเหลือ 4 วัน/สัปดาห์ โดยไม่หักเงินเดือนมาพูดถึงจึงมีน้ำหนัก เพราะไม่สำคัญว่าจะทำงานนานเท่าไหร่หากคุณยังสร้างผลงานออกมาได้เท่าเดิมและมีคุณภาพเท่าเดิม
นี่คือนวัตกรรมทางสังคมที่ต้องดูกันต่อไป
การทำงาน 5 วัน/สัปดาห์ คือธรรมเนียมปฏิบัติที่โลกการทำงานคุ้นชิ้นกันไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงหมายถึงการขยับโครงสร้างครั้งใหญ่ ข้อเสนอนี้จึงได้รับการทักท้วงจากทางฝั่งนักเศรษฐศาสตร์ นักธุรกิจ และนักการเมืองพอสมควร
แต่แน่นอนว่านี่คือนวัตกรรมทางสังคมอย่างหนึ่งที่มีความเป็นได้ว่าจะเข้ามาช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ทางสังคมของผู้คนได้แบบก้าวกระโดด เราจึงต้องมาถกเถียงกันในเรื่องนี้กันต่อไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา