เจาะอาณาจักร MBK ที่ไม่ได้มีแค่ห้าง และข้าว แต่มีทั้งสนามกอล์ฟ บริการสินเชื่อ และประมูลรถยนต์

เมื่อพูดถึงชื่อ มาบุญครอง หรือ MBK ธุรกิจแรก ๆ ที่คนนึกถึงคงไม่พ้นศูนย์การค้า และข้าวสารมาบุญครอง เพราะทั้งสองธุรกิจอยู่คู่คนไทยมาหลายสิบปี เป็นที่รู้จักในคนทุกเพศทุกวัย

แต่รู้หรือไม่ มาบุญครอง ทำธุรกิจอื่น ๆ ด้วย หากรวมศูนย์การค้า และข้าวสารเข้าไปด้วยจะมีทั้งหมด 8 ธุรกิจ เช่น ธุรกิจสนามกอล์ฟ, ธุรกิจสินเชื่อทางการเงิน และธุรกิจประมูลรถยนต์ เป็นต้น

ยิ่งการระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย รายได้ปี 2565 ของ มาบุญครอง จึงเติบโต 10% และพลิกมีกำไรสุทธิ 332 ล้านบาท แล้วภาพรวมธุรกิจ มาบุญครอง ในปี 2566 จะเป็นอย่างไร Brand Inside รวบรวมข้อมูลมาให้ดังนี้

MBK
ภาพ Shutterstock

มาบุญครอง กับ 8 กลุ่มธุรกิจที่แข็งแกร่ง

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น คนทั่วไปอาจรู้จัก มาบุญครอง ในแบรนด์ข้าวสาร และศูนย์การค้า แต่ยังไม่รู้จักธุรกิจอื่น ๆ ของ มาบุญครอง เท่าไรนัก เพราะปัจจุบัน มาบุญครอง หรือ บมจ. เอ็ม บี เค แบ่งการทำธุรกิจออกเป็น 8 กลุ่มประกอบด้วย

  • ธุรกิจศูนย์การค้า มีรายได้จากการขายพื้นที่เช่าให้รายย่อย กับองค์กรที่ศูนย์การค้า และอาคารมาบุญครอง
  • ธุรกิจโรงแรม และการท่องเที่ยว มีโรงแรมหลักคือ ปทุมวันปริ๊นเซส
  • ธุรกิจกอล์ฟ มีสนามหลักคือ ริเวอร์เดล และเรด เมาท์เทิน
  • ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการบ้านหรูควาริทซ์ พระราม 9 และ ริเวอร์เดล เรสซิเดนซ์
  • ธุรกิจอาหาร หรือ ข้าวแบรนด์มาบุญครอง
  • ธุรกิจการเงิน เช่น ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์ T Leasing
  • ธุรกิจการประมูล ที่ร่วมทุนกับธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่นให้บริการในช่ือ Apple Auto Auction
  • ธุรกิจสนับสนุนองค์กร และอื่น ๆ

แม้ มาบุญครอง จะเริ่มต้นจากธุรกิจอาหาร ผ่านการก่อตั้ง บริษัท มาบุญครองอบพืชและไซโล จำกัด เมื่อปี 2517 และเริ่มมาเปิดศูนย์การค้ามาบุญครองเมื่อปี 2528 แต่ด้วยระยะเวลาที่เปลี่ยนไป และด้วยบริษัทมีที่ดินจำนวนมาก จึงเริ่มนำที่ดินเหล่านั้นมาปรับใช้งานกับธุรกิจอื่น ๆ ไม่ได้ยึดติดแค่ธุรกิจศูนย์การค้า และอาหาร

สุเวทย์ ธีรวชิรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอ็ม บี เค เล่าให้ฟังว่า ที่ดินที่บริษัทเป็นเจ้าของถูกนำไปพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ และอื่น ๆ เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ นอกจากนี้ทางบริษัทยังปรับตัวภายใต้วิกฤติตลอดเวลา จึงประคองกิจการให้แข็งแกร่ง และมีกระแสเงินสดในมือตลอดเวลา

เจาะรายได้แต่ละกลุ่มธุรกิจของมาบุญครอง

ส่วนงานธุรกิจ 2565 2564 เพิ่มขึ้น/(ลดลง)
1) ศูนย์การค้า 1,703 1,480 223 15%
2) โรงแรม และการท่องเที่ยว 829 221 608 275%
3) กอล์ฟ 412 258 154 60%
4) อสังหาริมทรัพย์ 908 1,000 (92) (9%)
5) อาหาร 1,601 1,646 (45) (3%)
6) การเงิน 2,359 2,412 (53) (2%)
7) การประมูล 568 602 (34) (6%)
8) ศูนย์สนับสนุนองค์กร และอื่น ๆ 25 12 13 108%
รวม 8,405 7,631 774 10%

*หน่วยล้านบาท

ดังตารางด้านบนจะแสดงให้เห็นถึงภาพรวมธุรกิจของ มาบุญครอง ที่ปัจจุบันไม่ได้พึ่งพิงแค่ศูนย์การค้า และอาหาร อย่างชัดเจน เพราะสัดส่วนรายได้ที่มากที่สุดคือ ธุรกิจการเงิน รองลงมาเป็นศูนย์การค้า และอาหาร ส่วนสนามกอล์ฟ กับโรงแรม และการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวกลับมาจากวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาด

“มาบุญครอง พยายามทำตัวเป็นโฮลดิ้งผ่านการจัดกลุ่มธุรกิจให้ชัดเจน ถ้ามีคนเข้ามาร่วมทุนในอนาคต หรือจะเอาบางธุรกิจเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ก็ง่ายกว่าเดิม ซึ่งสิ้นปีนี้น่าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ถือเป็นอีกหลักหมุดสำคัญของกลุ่มมาบุญครองที่ทำธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน”

แม้ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัว แต่ไม่ใช่กับธุรกิจอาหารที่จริง ๆ ควรจะเติบโตไปด้วยกัน เพราะธุรกิจขายข้าวมีรายได้ลดลง 10% เพราะโรงสีข้าวผลิตข้าว และจำหน่ายเอง ทำให้ร้านค้าปลีกหยุดำเนินกิจการ หรือลดปริมาณสั่งข้าว นอกจากนี้กำลังซื้อผู้บริโภคยังมีปัญหา จึงไปซื้อข้าวแบรนด์อื่นที่มีราคา และคุณภาพต่ำกว่าแทน

ปี 2566 กับการเติบโตเหมือนก่อนโควิด

สุเวทย์ ย้ำว่า ในปี 2566 มาบุญครอง จะเริ่มกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะฝั่งศูนย์การค้าที่ไม่พึ่งแต่นักท่องเที่ยวจีน ผ่านการเน้นลูกค้ากลุ่มตะวันออกกลาง และอินเดีย จึงไม่มีปัญหานักท่องเที่ยวจีนที่กว่าจะไหลเข้ามาในประเทศไทยอาจต้องรอถึงปลายปี นอกจากนี้การเพิ่มโซนใหม่ 24 ชม. ยังช่วยดึงลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาใช้บริการด้วย

“การมีโซน 24 ชม. ช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นดองกิ หรือร้านอาหารที่ให้คนทำงานเข้ามาใช้บริการ จากเดิมที่คนกลุ่มนี้อาจไม่ใช้ลูกค้าที่มาใช้บริการเรา ซึ่งในเดือน ธ.ค. 2565 นั้น จำนวนผู้ใช้บริการศูนย์การค้ามาบุญครองเท่ากับช่วงก่อนโรคโควิด-19 ระบาด หรือราว 80,000 คน/วัน แล้ว”

อย่างไรก็ตาม จากกลุ่มธุรกิจทั้ง 8 ของมาบุญครอง เกือบทั้งหมดจะอิงกับกระแสการท่องเที่ยว ซึ่งตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ทำให้ มาบุญครอง จะกลับมาเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย สุเวทย์ หวังว่า ปี 2566 จะกลับมามีรายได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโรคโควิด-19 ระบาด หรือราว 12,249 ล้านบาท

อ้างอิง // MBK

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา