Lyft ขายหน่วยธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับให้ Toyota ด้วยมูลค่ากว่า 550 ล้านเหรียญ

หลังจากซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับมานาน ล่าสุด Lyft ได้ขาย Level 5 หน่วยธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวให้กับ Toyota ด้วยมูลค่ากว่า 550 ล้านเหรียญ และหันไปจริงจังกับงานบริการที่ตัวเองถนัดแทน

lyft

Lyft กับการเลือกแนวทางธุรกิจที่ชัดเจน

รายงานข่าวแจ้งว่า Lyft ผู้ให้บริการร่วมเดินทางคู่แข่ง Uber ประกาศขายหน่วยธุรกิจ Level 5 ที่มีหน้าที่วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ ให้กับ Woven Planet ธุรกิจวิจัย และพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของ Toyota โดยดีลดังกล่าวมีมูลค่ากว่า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการเจรจาน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2021

ทั้งนี้ Lyft จะได้เงินสดทันที 200 ล้านดอลลาร์ ส่วนอีก 350 ล้านดอลลาร์จะเป็นการแบ่งจ่ายเป็นเวลา 5 ปี โดย Lyft ไม่ได้แจ้งว่าจะนำเงินดังกล่าวไปลงทุนด้านใด แต่การได้เงินสด 200 ล้านดอลลาร์มาทำให้การบันทึกผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2021 จะทำให้ Lyft มี EBITDA เป็นบวก และลดต้นทุนดำเนินงาน 100 ล้านดอลลาร์

ปัจจุบัน Level 5 มีพนักงานราว 300 คน และ Woven Planet จะนำคนเหล่านั้นไปอยู่ในบริษัททั้งหมด ส่วนอนาคตเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับของ Lyft จะเน้นไปที่งานบริการ เช่นการวิเคราะห์เส้นทาง, การติดต่อกับลูกค้า รวมถึงการช่วยสร้าง Fleet ที่มีประสิทธิภาพสูงให้กับพาร์ทเนอร์ แทนที่จะมาวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว

ในทางกลับกัน Toyota มีการลงทุนในบริการร่วมเดินทางทั้ง Didi Chuxing และ Grab รวมถึงลงทุนในหน่วยธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับของบริการร่วมเดินทางทั้ง Uber และ Lyft นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อเติบโตในอนาคต

สรุป

Lyft ต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่อผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ให้ได้ ซึ่งการทำสิ่งที่ตัวเองถนัดน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จึงไม่แปลกที่การขายหน่วยธุรกิจวิจัย และพัฒนารถยนต์ไร้คนขับออกไปเพื่อช่วยเรื่องการเงินจึงเกิดขึ้น และคงต้องดูว่า Toyota จะใช้ประโยชน์จากการลงทุนครั้งนี้เพื่อต่อสู้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ได้อย่างไรบ้าง

อ้างอิง // Lyft, Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา