ในความโชคร้ายของค่าเงิน Lira ตุรกีที่อ่อนค่า อาจช่วยให้นักท่องเที่ยวที่ไปตุรกีในช่วงนี้อาจซื้อของแบรนด์เนมได้ถูกลงมากถึง 25% เมื่อเทียบกับราคาปกติ
นี่อาจเป็นโชคดีของนักท่องเที่ยวที่กำลังท่องเที่ยวในประเทศตุรกีขณะนี้ เนื่องจากวิกฤติค่าเงิน Lira ที่อ่อนค่าลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะแบรนด์สินค้าสุดแพงอย่าง Hermes และ Chanel ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาช้อปปิ้งในกรุง Istanbul ต่างยิ้มถ้วนหน้า
สำหรับวิกฤตค่าเงิน Lira ของตุรกี ทำไมถึงอ่อนค่าลงจนทำให้สินค้าแบรนด์เนมราคาถูกลง สามารถอ่านทำความเข้าใจได้ที่นี่
ยกตัวอย่างกระเป๋าของ Chanel รุ่น Camera Bag ที่ปกติแล้วราคา 3,700 เหรียญสหรัฐ ถ้าหากซื้อด้วยเงิน Lira ตุรกี จะอยู่ที่ 2,877 เหรียญสหรัฐ คิดเบ็ดเสร็จแล้วถูกลงถึงประมาณ 25% ทันทีแบบไม่ต้องรอลดราคา!
พนักงานร้านขายสินค้าแบรนด์เนมยี่ห้อหนึ่ง กล่าวกับ VOA ว่า เขาเองไม่เคยเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่แวะเข้ามาซื้อสินค้าในร้านแบรนด์หรูเท่านี้มาก่อน ถึงแม้ว่าขนาดที่ว่าฤดูนักท่องเที่ยวเยอะแล้วก็ยังไม่เยอะขนาดนี้
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้าไปซื้อของแบรนด์เนมเหล่านี้มาจากตะวันออกกลาง และรวมไปถึงชาวจีนอีกด้วย Orhan ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนได้กล่าวว่า “ตุรกีตอนนี้เหมือนสวรรค์ของนักช้อปตัวจริง”
อย่างไรก็ดีนี่คือฝันร้ายของชาวตุรกี เนื่องจากกลายเป็นว่าสินค้าเหล่านี้นั้นมีค่าแพงขึ้นตามค่าเงิน Lira ของตุรกีทันที แถมยังได้รับผลกระทบจากเรื่องเงินเฟ้ออีกด้วย
เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ และมีมาแล้วบ่อยๆ
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นแค่ตุรกีเท่านั้น ยังเคยมีกรณีที่ค่าเงินของประเทศต่างๆ ตกลงมหาศาลจนทำให้นักท่องเที่ยวที่เที่ยวในประเทศต่างๆ เหล่านี้โชคดีสำหรับการช้อปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย ที่ช่วงค่าเงิน Ruble ผันผวนหนักๆ ทำให้ราคาไอโฟนที่รัสเซียถูกที่สุดในโลกมาแล้วเมื่อปี 2014 จน Apple ต้องประกาศขึ้นราคาอีกรอบ
หรือแม้แต่ในประเทศมาเลเซีย ที่ค่าเงิน Ringgit ผันผวนมากๆ จนทำให้กลายเป็นว่าราคาเสื้อผ้าของ Uniqlo หรือแม้แต่ยี่ห้ออื่นในกรุงกัวลาลัมเปอร์มีราคาถูกกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียนมาแล้ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา