เปิดตัว LINE MOBILE บนเครือข่าย dtac โปรเริ่ม 249 บาท ย้ำร่วมมือกัน ส่วนตึกทำการอยู่จามจุรีสแควร์

เป็นอีกก้าวของ LINE ที่ขยับไปทำในสาย MOBILE วันนี้เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยอยู่บนเครือข่ายของ dtac Trinet แต่ดูเหมือนว่ายังมีคำถามที่ตามมาอีกมากมาย เช่น สถานะของ LINE MOBILE เป็นอย่างไรกันแน่ ถือเป็นบริษัทหรือเป็นเพียงโปรเจ็คย่อยของ dtac เท่านั้น?

LINE MOBILE อยู่บนเครือข่ายของ dtac

LINE ประกาศเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือใหม่ในรูปแบบดิจิทัล โดยใช้ชื่อ LINE MOBILE พูดง่ายๆ ก็คือ จะเป็นบริการเครือข่ายมือถือที่มาแข่งกับเครือข่ายที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วได้แก่ AIS, dtac และ Truemove H

จุดประสงค์หลักๆ คือมองว่าผู้ให้บริการหน้าเดิมมีปัญหาในการให้บริการกับลูกค้า เช่น บอกเลิกสัญญาไม่ได้ ต้องใช้ให้ครบตามเวลาที่กำหนด หรือมีปัญหาแล้วโทรหา Call Center ไม่ติด นอกจากนั้นค่าบริการแพงเกินไป ฯลฯ

LINE MOBILE ด้วยความร่วมมือกับ DTN หรือ dtac TriNet จึงส่งบริการออกมา โดยบริการ Voice & Data ทั้งหมดจะดำเนินการบนเครือข่ายของ dtac ทั้งหมด ส่วน LINE ทำหน้าที่เป็นเครื่องหมายทางการค้า

จากการสอบถาม ได้ข้อมูลว่า ทีมงานของ LINE MOBILE เป็นทีมเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นแยกออกมาจาก LINE ประเทศไทย พร้อมทั้งยืนยันว่า แม้จะมีการร่วมมือกับ dtac ในครั้งนี้ แต่พนักงานเป็นของตัวเองทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ที่ทำการของ LINE MOBILE ตั้งอยู่ที่จามจุรีสแควร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทดีแทค

ใช้ LINE MOBILE แต่ใบเสร็จเป็น dtac TriNet

LINE MOBILE ย้ำว่าบริการใหม่นี้จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานโทรศัพท์มือถือของคนไทย เพราะจุดเด่นคือไม่ต้องผูกมัด วันนี้ใช้บริการ พรุ่งนี้อยากเลิกบริการก็ทำได้ด้วยตนเองผ่านแอพพลิเคชั่น ส่วนใครที่อยากใช้บริการนี้ก็สามารถเข้าไปใช้งานได้ด้วยการย้ายค่ายเบอร์เดิม ในส่วนนี้ LINE MOBILE เน้นเลยว่าทำได้จริงๆ

นอกจากนั้น บนแอพพลิเคชั่น LINE MOBILE ยังมีหลายบริการที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งผู้ให้บริการเลย เช่น สามารถจำกัดยอดการใช้งานในแต่ละเดือนได้ด้วยตนเอง การโรมมิ่งไม่ต้องยุ่งยากอีกต่อไป เพราะสามารถทำผ่านออนไลน์ได้หมด โดยกระบวนการคือ ทักแชทไปหาพนักงานให้จัดการให้ ไม่ต้องไปที่ศูนย์ (ไม่มีศูนย์ให้บริการลูกค้า เพราะ LINE MOBILE เชื่อว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ทำทุกอย่างออนไลน์ได้)

ทำให้ LINE MOBILE ย้ำว่า ภายใน 3 นาที ลูกค้าจะต้องได้คุยกับพนักงานที่เป็นมนุษย์ แล้วไม่ใช่แค่การจะเปิดใช้โรมมิ่งเท่านั้น แต่หากลูกค้ามีปัญหาในการใช้บริการ ก็สามารถทักแชทไปหาพนักงานได้ แล้วถ้าไม่สะดวกพิมพ์ บอกให้พนักงานโทรมาหาก็ได้ หรือถ้าสะดวกโทรไป LINE MOBILE ก็บอกอีกว่า การโทรหา Call Center จะไม่คิดค่าโทรใดๆ ทั้งสิ้น

ที่สำคัญคือ ใครใช้ LINE MOBILE จะชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ แต่ถ้าใครทำเรื่องขอใบเสร็จรับเงิน จะได้รับใบเสร็จที่มีตัวหนังสือแนบท้ายกระดาษมาด้วยคำว่า dtac TriNet ก็อย่าตกใจ นั่นก็เป็นเพราะว่า LINE MOBILE อยู่บนเครือข่ายของดีแท็คไตรเน็ตนั่นเอง

แต่ยังไม่จบแค่นั้น นอกจากความชัดเจนที่ว่า LINE MOBILE  อยู่บนเครือข่าย dtac แต่ก็ยังมีความไม่ชัดเจนอีกหลายอย่าง ที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

คำถามที่ยังไร้คำตอบ (ที่ชัดเจน) จาก LINE MOBILE

ความไม่ชัดเจนอย่างแรกคือ ถ้าดูจากการประกาศข่าวของ LINE MOBILE อาจคิดไปว่าบริการนี้เป็น MVNO หรือเป็นผู้ให้บริการมือถือแบบไม่มีเครือข่ายเป็นของตัวเอง ซึ่ง LINE MOBILE เป็นบริการมือถือบนเครือข่าย dtac

คำถามที่ยังตอบไม่ชัดคือ สรุปแล้วบริการใหม่นี้เป็นเพียงแค่โปรเจ็คร่วมกันของ LINE MOBILE กับ dtac หรือ LINE MOBILE เป็นเพียงหน่วยธุรกิจหนึ่งของ dtac

ส่วนถามว่า LINE MOBILE มีสถานะเป็นนิติบุคคล เป็นบริษัทจดทะเบียนหรือไม่ ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ เพราะ การออกใบเสร็จชำระเงินขึ้นอยู่กับ dtac และ ผู้บริหาร LINE MOBILE ที่มาร่วมงานก็ย้ำคำตอบเดิมว่า “เป็นความร่วมมือกัน”

เมื่อตั้งไปคำถามไปถึงเรื่อง กสทช. ว่าบริการนี้มีการพูดคุยกับกสทช. หรือไม่? ผู้บริหาร LINE MOBILE ตอบว่า “เรามีทีมที่ทำการพูดคุยกับ กสทช. แล้ว ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจในการใช้บริการได้” แต่เมื่อมีการถามถึงรายละเอียดที่ลึกลงไป เช่น กฎระเบียบต่างๆ LINE MOBILE ก็ย้ำคำตอบเดิม คือขอให้เชื่อมั่นได้ เพราะเรามีทีมที่จัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว

ซ้าย – นางสาวอรุณรัตน์ แสงอลังการ ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์และปฏิบัติการทางธุรกิจ Line Mobile ประเทศไทย ขวา – นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ ผู้บริหารฝ่ายการตลาด Line Mobile ประเทศไทย

น้องใหม่ในวงการ ส่งโปรแรงมัดใจ ใช้กลยุทธ์ขายตรง

อย่างไรก็ตาม LINE MOBILE ได้ส่งโปรโมชั่นแรงๆ มาดึงดูดใจผู้ใช้งาน โดยราคาเริ่มต้นที่ 249 บาท

  • แพ็กเกจของ LINE Mobile มีให้เลือก 7 แบบ 7 ราคา (สมัครก่อน 31 ตุลาคมปีนี้ ราคาจะลด 50% 12 รอบบิล)
    – XS ราคา 249 บาท (ลด 50% เหลือ 125 บาท) ได้อินเทอร์เน็ต 1.5 GB โทร 100 นาที
    – S ราคา 339 บาท (ลด 50% เหลือ 170 บาท) ได้อินเทอร์เน็ต 5 GB โทร 150 นาที
    – M ราคา 429 บาท (ลด 50% เหลือ 215 บาท) ได้อินเทอร์เน็ต 10 GB โทร 200 นาที
    – L ราคา 599 บาท (ลด 50% เหลือ 300 บาท) ได้อินเทอร์เน็ต 20 GB โทร 300 นาที
    – XL ราคา 749 บาท (ลด 50% เหลือ 375 บาท) ได้อินเทอร์เน็ต 30 GB โทร 400 นาที
    – XXL ราคา 949 บาท (ลด 50% เหลือ 475 บาท) ได้อินเทอร์เน็ต 40 GB โทร 600 นาที
    – Unlimited ราคา 1699 บาท (ลด 50% เหลือ 850 บาท) ได้อินเทอร์เน็ต Unlimited โทร Unlimited

นอกจากนี้ LINE MOBILE บอกว่า เป็นเจ้าเดียวในไทยที่ทำคือ “ชวนเพื่อนมาใช้งาน 1 คน ลดราคา 10 บาท” จากการสอบถามนั้น ไม่มีจำกัด เช่น ชวนเพื่อนมาใช้งานได้ 50 คน ก็จะลดราคาโปรโมชั่นไป 500 บาท แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ตราบเท่าที่ทั้งเรา (คนชวน) และเพื่อน (คนถูกชวน) ยังใช้บริการ LINE MOBILE ราคาค่าส่วนลดจะได้ทั้ง 2 ฝั่ง ยิ่งชักชวนมาก ราคาจะยิ่งลดมากตามจำนวนคนที่เราชักชวนให้มาใช้บริการ เป็นกลยุทธ์แบบขายตรงลูกโซ่ แต่จะมีความแตกต่างตรงที่คนบนหัว Top-Line อาจจะไม่ได้ผลประโยชน์เหมือนธุรกิจขายตรง เพราะจะต้องขยายฐานด้วยการชักชวนผู้ใช้คนอื่นๆ ด้วยตนเองเท่านั้น

เป้าหมายธุรกิจของ LINE MOBILE

แม้ว่าผู้บริหารฝ่ายการตลาดจะมาในวันเปิดงาน แต่เป้าหมายของ LINE MOBILE บอกให้รับรู้ได้เพียงว่า “ผู้ใช้งาน LINE มีเท่าไหร่ เราก็จะทำให้ได้เท่านั้น” หมายความว่า LINE MOBILE มีเป้าหมายเป็นผู้ใช้ LINE ในประเทศไทย ซึ่งถือว่าไม่ง่ายเพราะต้องแข่งกับผู้ให้บริการรายเดิมที่อยู่ในตลาดทั้ง 3 เจ้า

ส่วนการที่จับมือกับ DTN นั้น LINE MOBILE ก็ย้ำว่างบการตลาดและงบออนไลน์ไม่ได้รวมกัน มีความเป็นอิสระ ไม่ขึ้นต่อใคร โดยเริ่มแรกจะส่งโฆษณาขึ้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหน มีผู้ใช้มากน้อยเท่าไร ต้องติดตาม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา