เจ้าของ Bath & Body Works และ Victoria’s Secret เดินหน้าขายออนไลน์จนธุรกิจเริ่มฟื้นตัว

การระบาดของ COVID-19 ทำค้าปลีกดั้งเดิมยื่นล้มละลายมากมาย เพราะไม่สามารถยืนระยะให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ แต่ไม่ใช่กับ L Brands เจ้าของ Bath & Body Works และ Victoria’s Secret ที่เริ่มฟื้นจากอาการหนัก

Victoria's Secret
หน้าร้าน Victoria’s Secret // ภาพ Shutterstock

การเติบโตฟื้นจากวิกฤตธุรกิจ

L Brands ได้แจ้งผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ว่า ทำรายได้ทั้งหมด 2,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะลดลง 20% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ก็มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ โดยเหตุที่บริษัทดังกล่าวสามารถเติบโตในช่วงเวลานี้ได้เพราะการรุกตลาดออนไลน์ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Bath & Body Works ที่จำหน่ายสบู่ และสินค้าเกี่ยวกับการทำความสะอาดร่างกายอื่นๆ มียอดขายจากหน้าร้านเดิมเพิ่มขึ้น 123% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนฝั่ง Victoria’s Secret เพิ่มขึ้น 28% เหตุผลหลักมาจากคนอยู่บ้านทำให้ชุดชั้นในยังขายดี เช่นเดียวกับอุปกรณ์ทำความสะอาด

อย่างไรก็ตามหากมาเจาะที่กำไรสุทธิของบริษัทจะพบว่า L Brands ขาดทุนสุทธิ 49,597 ล้านดอลลาร์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่กำไร 37,596 ล้านดอลลาร์ เพราะทางธุรกิจอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการปลดพนักงาน 850 คน และการทยอยปิดสาขา Victoria’s Secret ในช่วงก่อนหน้านี้

ในทางกลับกันด้วยการเดินหน้าทำตลาดออนไลน์จนช่องทางดังกล่าวเริ่มทำรายได้ใกล้เคียงกับหน้าร้านปกติ L Brands จึงมีแผนต่อยอดการทำตลาดออนไลน์ด้วยการจำหน่ายสินค้าที่เหมาะกับเทศกาลวันหยุดยาวที่จะมาถึงเร็วๆ นี้ แม้ผู้บริโภคในบางประเทศยังต้องกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อป้องกันการระบาดของโรค COVID-19 ก็ตาม

สรุป

การฟื้นแบรนด์ของ L Brands ให้ทุกอย่างดูกลับมาดีเหมือนเดิมน่าจะเดินมาในทางที่ถูกต้องแล้ว เพราะการทำตลาดออนไลน์น่าจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมในช่วง COVID-19 เพราะหากจะหวังแค่หน้าร้านอย่างเดียวน่าจะไปไม่รอดแน่ๆ ดังนั้น Bath & Body Works และ Victoria’s Secret จะเติบโตอยู่ได้หรือไม่ ต้องติดตามกัน

อ้างอิง // Reuters, L Brands

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา