วิจัยกรุงศรีคาด โควิดไทยยังไม่แน่นอนถึงสิ้นปี แม้รัฐส่งสัญญาณเปิดประเทศและผ่อนคลายการควบคุม แถมท่องเที่ยวยังน่าห่วง กว่าต่างชาติจะมาเที่ยวปกติอาจต้องรอถึง 2568
วิจัยกรุงศรีรายงานว่า ทางการเลื่อนเปิดกรุงเทพฯ ขณะที่การผ่อนคลายระยะต่อไปยังต้องระมัดระวังและอาจขึ้นอยู่กับอัตราการเสียชีวิตที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติระยะที่ 2 เบื้องต้นเตรียมเปิดเพิ่มอีก 4 จังหวัดพื้นที่นำร่องในวันที่ 1 ตุลาคม ได้แก่ เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า) ชลบุรี (พัทยา สัตหีบ อ.บางละมุง) เพชรบุรี (ชะอำ) และ ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน)
ส่วนกรุงเทพฯ อาจต้องเลื่อนออกไป จนกว่าจำนวนประชากรในพื้นที่จะได้รับวัคซีน 2 โดส ตามเกณฑ์ที่ 70% ของประชากร ล่าสุด ณ วันที่ 19 กันยายน มีอัตราการฉีดที่ 40.7%
คลายล็อกไม่ได้แปลว่าโควิดดีขึ้น สถานการณ์ยังไม่แน่นอน
แม้ทางการจะทยอยเปิดพื้นที่นำร่องเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ความกังวลและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการติดเชื้อ COVID-19 ในไทยจะยังสูงอยู่อย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2564 หลังการทยอยผ่อนคลายการควบคุม โดยทางวิจัยกรุงศรีได้คาดการณ์อนาคตจนถึงสิ้นปีเอาไว้ใน 2 สถานการณ์ ดังนี้
ในกรณีฐาน
- การฉีดวัคซีนจำนวนมากในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าจะช่วยควบคุมการติดเชื้อได้ระดับหนึ่งภายใต้ข้อสมมติว่า ฉีดวัคซีนเฉลี่ยวันละ 460,000 โดส และประสิทธิภาพของวัคซีนต่อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าอยู่ที่ 50%
- อาจมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมเพิ่มเติมในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้หรือเป็นช่วงที่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงต่ำกว่า 150 รายต่อวัน
วิจัยกรุงศรีประเมินว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว แต่มีแนวโน้มลดลงอย่างช้าๆ ตลอดช่วงที่เหลือของปี โดยคาดว่าในช่วงสิ้นปีจะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 2,500 รายต่อวัน และเสียชีวิตราว 40 รายต่อวัน
ในกรณีเลวร้าย
- แม้จะฉีดวัคซีนได้ 90 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอาจยังอยู่ในระดับสูงตลอดช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากวัคซีนมีประสิทธิภาพต่ำและผ่อนคลายมาตรการควบคุมเร็วเกินไป
- ในกรณีนี้อาจเห็นการกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง
สถานการณ์ปัจจุบันแม้จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันลดลงทีละน้อยและมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว แต่สถานการณ์ยังคงออกได้สองหน้าทั้งในกรณีฐานและกรณีเลวร้าย ดังนั้น มาตรการควบคุมการระบาดจึงยังมีความจำเป็น การผ่อนคลายมาตรการควรดำเนินการไปทีละขั้นตอนแต่ยังคงข้อจำกัดบางประการด้วยความระมัดระวังตลอดทั้งปี
ท่องเที่ยวจะฟื้นตัวช้า กลับมาปกติภายในปี 2568
ปัจจุบันแม้แผนการฉีดวัคซีนจะเร่งขึ้น แต่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีเพียง 0.15 ล้านคน และ 2.5 ล้านคน ในปี 2564 และปี 2565 ตามลำดับ โดยวิจัยกรุงศรีคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่าจะกลับสู่ระดับก่อนเกิดการระบาดอาจต้องใช้เวลาหลายปีหรือราวปี 2568
ผลจากการระบาดที่รุนแรงกว่าคาดจึงอาจเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางและทำให้แผนการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวหลักบางแห่งเลื่อนช้าออกไป อีกทั้งหลายประเทศสำคัญได้ปรับยกระดับคำเตือนนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทย อาทิ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และอังกฤษ
นอกจากนี้ การฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของไทยโดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียอาจล่าช้า เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่ยังอยู่ในระดับสูง และมีความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีน และการกลายพันธุ์ของไวรัส
ที่มา – วิจัยกรุงศรี
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา