KBank Private Banking เผยกลยุทธ์ปี 2020 ในการบริหารความมั่งคั่งให้ลูกค้า โฟกัสหลักจะเน้นความยั่งยืนเป็นหลัก สร้าง S-Curve ให้ลูกค้า รวมไปถึงเปิดมิติใหม่
KBank Private Banking ได้ประกาศ 3 กลยุทธ์ในการส่งมอบความมั่งคั่งที่สมบูรณ์แก่ลูกค้าในปี 2020 นี้ ถฟเรื่องหลักๆ เน้นไปที่แนวคิดลงทุนอย่างยั่งยืน เริ่มต่อยอดธุรกิจลูกค้าด้วยองค์ความรู้นวัตกรรม นอกจากนี้ยังเปิดมิติใหม่ในการบริหารจัดการสินทรัพย์เพื่อสาธารณกุศล โดยร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญอย่าง Lombard Odier ซึ่งได้เริ่มทดลองไปแล้ว 2 หน่วยงานการกุศล
- KBank ประกาศแผนปี 2020 จัดการความเสี่ยงเชิงรุก รับมือยุคดิสรัปชั่น
- ส่องออฟฟิศใหม่! KBank Private Banking ที่ให้บริการกลุ่มลูกค้า AUM 50 ล้านบาทขึ้นไป
จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย ได้เริ่มต้นโดยกล่าวถึง ปรัชญาของ Lombard Odier คำว่า Rethink (คิดใหม่) เนื่องจากโลกเปลี่ยนไปตลอดเวลา ผสานกับคำว่า Perfect Wealth ของธนาคารกสิกรไทย เพื่อให้คนรุ่นต่อไปมีชีวิตมีคุณภาพ
Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย ยังได้กล่าวถึง มิติของการบริหารความมั่งคั่งนั้นมีมากกว่าเรื่องของการบริหารพอร์ตการลงทุน มันเป็นเรื่องใหญ่กว่านั้น โดยหลังจากนี้จะเน้นไปที่ความยั่งยืนมากขึ้น โดยกลยุทธ์สำคัญในปีนี้จะเน้น 3S คือ Sustainable, Sharing, S-Curve
Sustainable investment ลงทุนแบบยั่งยืน
จิรวัฒน์ ได้กล่าวถึงกลยุทธ์ที่หาผลตอบแทนนั้นเป็นเรื่องรองไปแล้ว เนื่องจากไม่เกิดความยั่งยืนกับลูกค้า แต่สิ่งสำคัญที่จะเน้นที่สุดคือควบคุมความเสี่ยง นอกจากนี้ปีนี้จะโฟกัสการลงทุนในกิจการรับผิดชอบต่อสังคม โดยยืนยันว่าไม่ได้พูดเอาเท่ และยังได้กล่าวเสริมว่าบริษัทที่เน้นความยั่งยืน ในระยะยาวแล้วผลตอบแทนดีกว่ามากกว่า นอกจากนี้เทรนด์การลงทุนก็เริ่มมาสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบันนี้มีดัชนีเกี่ยวกับความยั่งยืน เช่น MSCI หรือ FTSE รวมไปถึง DJSI
ศิริพร สุวรรณการ Private Banking Financial Advisory Head ธนาคารกสิกรไทย ได้กล่าวเสริมว่า เรื่องของความยั่งยืนในอนาคตจะเป็นเรื่อใหญ่กว่าเรื่องอินเตอร์เน็ตที่เข้ามาพลิกโฉมโลก ซึ่งเราจะเห็นปัญหาโลกร้อน การขาดแคลนน้ำ ความเหลื่อมล้ำในด้านต่างๆ ซึ่งการลงทุนในเรื่องเหล่านี้นักลงทุนต้องมองข้ามกำไรรายไตรมาส มองระยะยาวมากขึ้น
Wealth sharing แบ่งปันให้สังคม
จิรวัฒน์ ได้เล่าต่อถึงเรื่องการแบ่งปันว่า คนทั่วไปมักมองว่า Private Banker ทั้งหลายทำหน้าที่ดูแลคนรวย แต่อีกด้านหนึ่งคือการจัดสรรแบ่งปัน ผ่านทางระบบเศรษฐกิจนำเงินส่วนเหลือเข้าไปสู่เศรษฐกิจ เช่น Private Bank บางที่สามารถปล่อยกู้โดยตรงให้กับกิจการหรือบริษัทที่ต้องการเงินกู้ ซึ่งผลที่ได้คือทำให้เกิดการจ้างงาน ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขณะที่ลูกค้าก็ได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ
แต่ปัจจุบันลูกค้าหลายๆ คนต้องการแบ่งปันมากขึ้น เช่น บริจาคให้องค์กรการกุศล รวมไปถึงจัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ KBank Private Banking ยังเตรียมที่จะเปิดมิติใหม่
ตรีพล ภูมิวสนะ Private Banking Business Head ธนาคารกสิกรไทย ได้กล่าวเสริมว่า องค์กรสาธารณะกุศลของไทยมีเงินเยอะมากระดับรวมกันแล้วหลายแสนล้านบาท ถ้าผลตอบแทนที่ได้นั้นโอเค คิดแค่เพียง 2% จะทำให้เงินจะมีอีกมากที่เข้าระบบ ทุกวันนี้คุยเรื่องการเพิ่มศักยภาพของการลงทุน ให้คำปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง การจัดการ ถ่ายทอดความรู้ การระดมทุน ให้กับบางองค์กรแล้ว
เพิ่ม S-Curve ให้ลูกค้า
จิรวัฒน์ ได้กล่าวถึง S ตัวสุดท้ายคือ S-Curve นั่นคือเน้นหาการเติบโตใหม่ๆ ให้กับลูกค้า มองว่าเศรษฐกิจไทยและธุรกิจไทยอยู่ในช่วงเติบโตสุดๆ แล้ว ทำให้ KBank Private Banking มองว่าจะต้องหา S-Curve ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า เพราะไม่งั้นแล้วในท้ายที่สุดความมั่งคั่งของลูกค้าก็เติบโตช้าลง โดยจะนำความรู้ของธนาคารกสิกรไทยที่มี รวมไปถึงคอนเน็คชั่นของธนาคารสามารถแบ่งปันให้ลูกค้ามี S-Curve ใหม่ๆ ได้
นนท์ บุรณศิริ Private Banking Family Wealth Management Advisory Head ธนาคารกสิกรไทย ได้กล่าวเสริมว่า ลูกค้าของ KBank Private Banking ส่วนใหญ่มีโอกาสที่จะโดนบริษัทใหม่ๆ นั้น Disrupt เกือบหมด ยกเว้นกิจการที่ผูกขาด
นอกจากนี้ นนท์ ยังได้กล่าวว่า ถ้าหากไม่เพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจเหล่านี้ ระยะยาวอยู่ยากได้มากขึ้น ซึ่ง KBank Private Banking จะใช้ความรู้ที่มีมาแบ่งปันกับลูกค้า เช่น KPB Academy รวมไปถึงมีสิ่งที่มีของกสิกรไทยเอง ทั้ง สหรัฐ อิสราเอล จีน หรือ KBTG ซึ่งมีลูกค้าบางรายได้เลือกลงทุนและต่อยอดธุรกิจกับบริษัทเทคโนโลยีในประเทศต่างๆ ไปบ้างแล้ว 1-2 ราย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา