กสิกรไทยซื้อหุ้นเพิ่มทุน ธ.แมสเปี้ยนในอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 84.55% ตั้งเป้าเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 

กลุ่มธุรกิจการเงินกสิกรไทย ขยายการลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยน ประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัทย่อย บริษัท กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล จำกัด และ บริษัท กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล อินโดนีเชีย เป็นผู้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยมูลค่าทุนของธนาคารแมสเปี้ยนหลังเพิ่มทุนแล้วเสร็จอยู่ที่ 15,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,000 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของธนาคารกสิกรไทยในธนาคารแมสเปี้ยนจากเดิมอยู่ที่ 67.68% เพิ่มเป็น 84.55% ย้ำจุดยืนการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มุ่งเป้าเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดใน East Java อินโดนีเซีย

ภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ ประธานกรรมการ บริษัท กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล จำกัด (KVF) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2560 กลุ่มธุรกิจการเงินกสิกรไทยได้ทยอยเข้าถือหุ้นธนาคารแมสเปี้ยน ประเทศอินโดนีเซีย ล่าสุดในครั้งนี้ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีกครั้ง ทำให้มูลค่าทุนของธนาคารแมสเปี้ยนหลังเพิ่มทุนแล้วเสร็จอยู่ที่ 15,441 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8,000 ล้านบาท) ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารแมสเปี้ยนเพิ่มขึ้น จาก 67.68% เป็น 84.55% โดยยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารแมสเปี้ยน 

ภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ ประธานกรรมการ บริษัท กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล จำกัด (KVF)

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยนำประสบการณ์ในธุรกิจธนาคารกว่า 78 ปี มาต่อยอด บริการทางการเงินในธนาคารแมสเปี้ยนเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียในระยะยาว ผ่านการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจ 3 กลุ่ม ได้แก่ 

  • กลุ่มองค์กร/ธุรกิจขนาดใหญ่ (Corporate) ธนาคารจะให้บริการด้านธนาคารที่ครบวงจร และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระดับที่ลึกขึ้น 
  • กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ธนาคารมีการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และบริการ รวมถึงขั้นตอนต่างๆ (เช่น ตรวจสอบรายได้, การอนุมัติสินเชื่อ ฯลฯ) ให้เร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งมีการเสนอระบบกู้เงินแบบ P2P ที่ลูกค้าสามารถกู้ระหว่างบุคคล  
  • กลุ่มลูกค้ารายย่อย (Retail) มีพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลาย ทั้งบัญชีเงินเดือน QRIS (ระบบชำระเงินผ่าน QR Code ของประเทศอินโดนีเซีย) บัญชีเงินฝาก การกู้เงินส่วนบุคคล ซึ่งตอบสนองความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้ารายย่อยในชีวิตประจำวัน

“ธนาคารกสิกรไทยที่มีพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทั่วภูมิภาค จะยิ่งช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอินโดนีเซีย และ AEC+3 ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของธนาคารในการก้าวสู่การเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย ภายในปี 2570” นายภัทรพงศ์ กล่าว

ที่มา ธนาคารกสิกรไทย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา