หลังจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เซ็น คำสั่งฝ่ายบริหารออกมาตรการจับตาแอพจีนเข้มข้น ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจากรัฐบาลวอชิงตัน ตอนนี้มีแผนชัดเจนแล้วว่าฝ่ายบริหารจะมีอำนาจอะไรบ้างตามตัวบทกฎหมายเพื่อควบคุมแอพพลิเคชั่นจีน โดยครั้งนี้อำนาจจะไปอยู่ในมือกระทรวงพาณิชย์เสียเป็นส่วนมาก
เหตุผลในการออกคำสั่งดังกล่าวไม่ได้ต่างจากเหตุผลของ โดนัลด์ ทรัมป์ มากนัก คือเพื่อป้องกันข้อมูลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางธุรกิจ ข้อมูลของรัฐบาล ไปจนถึงข้อมูลด้านความมั่นคง ไม่ให้รั่วไหลไปยังประเทศคู่ขั้วตรงข้ามอย่างจีนและรัสเซีย ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ
วิเคราะห์ดูแล้ว มาตรการของไบเดนดูมีประสิทธิภาพกว่าทรัมป์เสียอีก
จากเดิมที่ในยุคของทรัมป์ รัฐบาลมอบความรับผิดชอบในการขึ้นบัญชีดำบริษัทไปยังกระทรวงกลาโหม
มาคราวนี้ โจ ไบเดน มอบอำนาจให้กับกระทรวงพาณิชย์ในการออกหมายเรียกเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทต่างชาติ ทั้ง โทรศัพท์ แท็ปเล็ต คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงซอฟต์แวร์ เพื่อตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้าเงื่อนไขในการใช้งานในประเทศสหรัฐหรือไม่
นั่นหมายความว่าสหรัฐสามารถแบนบริษัทได้มากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงอีกต่อไป
การแบนแอพพลิเคชั่นจะถูกตัดสินใจขั้นสุดท้ายโดยใช้อำนาจของรัฐมนตรีพาณิชย์อย่าง จีน่า ไรมอนโด โดย แอพพลิเคชั่นที่ถูกเพ่งเล็งจะต้องเข้าเกณฑ์บางอย่างที่วางไว้ เช่น เป็นเจ้าของ ถูกควบคุม หรือถูกบริหารจัดการโดยบุคคลที่เกี่ยวข้องกับทหารหรือหน่วยข่าวกรองในประเทศที่เป็นคู่ขั้วตรงข้ามอย่างจีนและรัสเซีย
โฆษกกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า หากแอพพลิเคชั่นต่างชาติเข้าข่ายว่าเป็นภัยคุกคาม ทางกระทรวงพาณิชย์จะแจ้งไปยังบริษัทโดยตรงหรือตีพิมพ์ใน Federal Register วารสารทางการของทำเนียบขาว เพื่อให้บริษัทดังกล่าวปรับปรุงและออกมาตรการป้องกันข้อมูลรั่วไหลต่อไป
ที่มา – Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา