JD ร้านมัลติแบรนด์แฟชั่นกีฬาจากอังกฤษบุกไทยอย่างเป็นทางการ เปิดสาขาแรกที่ ICONSIAM ตอบรับตลาดสตรีทแวร์ที่กำลังเติบโตในไทย และคนไทยแต่งตัวจัดจ้านมากขึ้น
เปิดตำนานร้าน JD Sports
ถ้าใครเป็นสายสตรีท หรือสายสปอร์ตคงจะรู้จักร้าน JD หรือ JD Sports กันมาบ้าง เป็นร้านมัลติแบรนด์จำหน่ายเสื้อผ้ากีฬาแฟชั่นต่างๆ สัญชาติอังกฤษ ครอบคลุมทั้งรองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ มีทั้งสายสปอร์ต และสายแฟชั่น แต่ร้าน JD นี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ JD.com ในประเทศจีนแต่อย่างใด
ชื่อ JD มาจาก John และ David ที่เป็นผู้ก่อตั้ง โดยบริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1981 หรือราว 37 ปีมาแล้ว จุดเริ่มต้นที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันมีร้านค้าราว 800 ร้านทั่วโลก และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองบิวรี่ สหราชอาณาจักร
สินค้าของ JD จะมีทั้งรองเท้าสตรีทหายาก ไปจนถึงไอเท็มสำหรับคนออกกำลังกาย มีแบรนด์ดังอย่าง adidas, Nike, Puma, Reebok, New Balance, Converse, Lacoste, Fila, Supply & Demand และ Pink Soda สินค้าจะครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก
ไทยเป็นสาขาที่ 4 ในเอเชีย ประเดิมห้างหรู ICONSIAM
ส่วนใหญ่ JD มีการทำตลาดในอังกฤษ และโซนยุโรปอย่างเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี และเบลเยี่ยม แต่ได้เริ่มขยายสู่ภูมิภาคเอเชียเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาเริ่มต้นที่ประเทศมาเลเซีย เพราะต้องการให้คนเอเชียรู้จักแบรนด์มากขึ้น จากนั้นก็เริ่มขยายสู่ประเทศสิงคโปร์ และเกาหลี
ในปีนี้ JD ได้ทำการบุกตลาดประทเศไทยอย่างเป็นทางการ ถือเป็นประเทศที่ 4 ในเอเชีย โดยได้ทำการศึกษาตลาดในไทยอยู่เกือบ 1 ปีก็พบว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะคนเล่นรองเท้าเยอะขึ้น สะสมรองเท้า มีการการแต่งกายสตรีทมากขึ้น และเมื่อเทียบกับประทเศอื่นในอาเซียนก็ถือว่าคนไทยแต่งตัวค่อนข้างจัดจ้านมากที่สุด แฟชั่นมากที่สุด จึงมีโอกาสในการเติบโตสูง
สาขาแรกที่ JD เข้ามาปักหมุดได้เลือกที่ห้างหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ICONSIAM เป็นแฟล้กชิพสโตร์แห่งแรกในไทยด้วยพื้นที่กว่า 900 ตารางเมตร รวมสินค้ากว่า 20 แบรนด์ เป็นสินค้าทั้งสายแฟชั่น และสายออกกำลังกาย
เหตุผลที่เลือกที่ ICONSIAM เป็นสาขาแรกเพราะด้วยความที่เป็น Destination แห่งใหม่ของไทย และเป็นห้างที่มีทราฟิกทั้งคนไทย นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา ที่สำคัญคือมีพื้นที่ที่สามารถเปิดช้อปขนาดใหญ่ได้ ในขณะที่ห้างในเมืองพื้นที่ไม่เพียงพอ
โดยที่สาขาที่ 2 ได้ทำการเปิดให้บริการแล้วเช่นกันที่ศูนย์การค้าเมกา บางนา สาขานี้มีพื้นที่เล็กกว่าเล็กน้อย แต่มองศักยภาพในโซนบานาเป็นโซนครอบครัว สามารถจับตลาดกลุ่มนี้ได้
จุดแข็งที่สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ Only at JD!
ถ้าพูดถึงตลาดร้านมัลติแบรนด์ หรือตลาดรองเท้าสนีคเกอร์ในไทยในตอนนี้ค่อนข้างที่จะมีสีสัน มีการแข่งขันกันดุเดือด เพราคนไทยสนใจเรื่องรองเท้า เล่นรองเท้ามากขึ้น บางคนชอบซื้อไว้สะสมก็มี
การที่ JD เข้ามาบุกตลาดในไทยในตอนนี้ก็ต้องเจอกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Carnival และ VAC ที่เป็นแบรนด์โลคอลในประทเศไทย และทำตลาดในไทยมานาน มีฐานลูกค้าอยู่พอสมควร
แต่ JD มองว่าไม่ได้กลัวการแข่งขันเท่าไหร่ เพราะทั้งสองแบรนด์ก็เป็นทั้งคู่แข่ง และเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันในการขายสินค้าบางอย่าง
สิ่งที่ JD ใช้เป็นจุดแข็งก็คือสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น เรียกว่า Only at JD เป็นสินค้าที่แบรนด์ต่างๆ ออกแบบ หรือทำสีใหม่ วางขายเฉพาะที่ JD ที่เดียว ไม่มีขายที่อื่น เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ไม่ชอบความแมส การที่มีสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟย่อมได้แต้มต่อในการเข้าหาของผู้บริโภค
รวมถึงจุดแข็งในเรื่องสต็อคสินค้า JD ได้ลงทุนทำคลังสินค้าขนาดใหญ่ในประเทศไทยเช่นกัน ทางแบรนด์ก็วางใจในการสต็อคสินค้าจำนวนมาก และสินค้าที่ JD ได้มาจะนำเข้าจากยุโรปเจ้าเดียว อีกทั้งยังมีสินค้าที่ครอบคลุมทุกกลุ่มทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ทั้งครอบครัวสามารถมาซื้อได้
หลังจากที่ได้เปิดให้บริการมาร่วม 3 สัปดาห์แล้วก็พบว่าผลตอบรับดี คนไทยให้การรู้จักกับร้านมากขึ้น โดยในปีหน้า JD เตรียมเปิดช่องทางออนไลน์โดยใช้ชื่อว่า JDsports.co.th
ส่วนแผนขยายสาขาตอนนี้ยังอยุ่ในขั้นตอนการวางแฟน แต่ในช่วง 2-3 ปีแรกยังคงอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน จากนั้นค่อยขยายไปต่างจังหวัด
สรุป
ตลาดแฟชั่น สปอร์ต รวมถึงรองเท้าสนีคเกอร์ยังคงเป็นที่นิยมในประเทศไทยอยู่ การที่แบรนด์จากต่างประเทศแห่เข้ามาเปิดสาขาในไทยก็การันตีได้ว่าไทยมีศักยภาพในการลงทุน และพฤติกรรมผู้บริโภคเองก็ตอบรับกับตลาดนี้ด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา