ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ร่วงจากอันดับ 3 สู่ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลก

หลังจากเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาส 4 ปี 2023 ที่ผ่านมา ในที่สุดญี่ปุ่นก็ร่วงจากอันดับ 3 สู่อันดับ 4 ตามหลังเยอรมนีแล้วเรียบร้อย ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานว่าเศรษฐกิจหดตัวอยู่ที่ 0.4% ในเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 

แม้ว่า GDP จะเติบโตอยู่ที่ 1.9% ตลอดปีก็ตาม แต่ในเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนเศรษฐกิจก็หดตัวอยู่ที่ 2.9% ถือว่าเศรษฐกิจหดตัวสองไตรมาสติดต่อกัน โดยญี่ปุ่นนั้นติดอันดับเป็นประเทศที่ขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกจนถึงปี 2010 จากนั้นก็ถูกจีนโค่นสำเร็จ ปีที่ผ่านมา GDP ของญี่ปุ่นมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 150 ล้านล้านบาท ขณะที่เยอรมนีอยู่ที่ 4.4 ล้านล้านหรือ 4.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ขึ้นอยู่กับการแปลงสกุลเงิน) เงินเยนของญี่ปุ่นคือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ญี่ปุ่นร่วงจากอันดับ 3 สู่อันดับ 4 ของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากค่าเงินที่อ่อนค่าแล้ว ความอ่อนแอดังกล่าวยังสะท้อนผ่านอัตราประชากรที่ลดลง ตลอดจนผลิตภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของญี่ปุ่นที่อ่อนแอลงด้วย

Japan

ญี่ปุ่นเคยขึ้นชื่อว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจ ผงาดขึ้นมาจากเถ้าถ่านจากซากสงครามโลกครั้งที่สองและกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกตามหลังสหรัฐอเมริกาได้ และเป็นเช่นนั้นเรื่อยมาจนทศวรรษที่ 70, 80 จากนั้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลกต่างก็ค่อยๆได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในทศวรรษ 90 ทั้งญี่ปุ่นและเยอรมนีต่างก็เป็นประเทศที่ได้รับแรงหนุนจากธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีผลิตภาพที่แข็งแกร่ง

ส่วนสหรัฐอเมริกายังมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นดับ 1 ของโลก GDP อยู่ที่ 27.94 ล้านล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1 พันล้านล้านบาท ขณะที่จีนอยู่ที่ 17.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 626 ล้านล้านบาท อินเดียอยู่ที่ 3.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 132 ล้านล้านบาท

ญี่ปุ่นกำลังใช้มาตรการเรื่องคนเข้าเมืองมาช่วยแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน นอกจากนั้นก็มีการใช้หุ่นยนต์เป็นตัวช่วยอีกทางด้วย ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นซบเซาก็เนื่องมาจากค่าแรงที่คงที่มานาน ส่งผลให้ครัวเรือนต่างๆ ไม่รู้สึกอยากควักเงินใช้จ่าย ขณะเดียวกัน ธุรกิจต่างๆ ก็มีการลงทุนอย่างหนักในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว แทนที่จะลงทุนในตลาดประเทศที่มีแต่ผู้สูงอายุและการบริโภคในภาคเอกชนก็ลดลงติดต่อกันสามไตรมาสในปีที่ผ่านมา การเติบโตในปีนี้ก็คาดว่าจะยังซบเซาต่อไป เนื่องจากอัตราการออมในครัวเรือนก็เปลี่ยนเป็นด้านลบ มีการคาดการณ์ว่า GDP น่าจะเติบโตชะลอตัวจาก 1.9% ในปี 2023 เป็น 0.5% ในปีนี้

ที่มา – Japan Today

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา