เหตุผลที่จีนประสบความสำเร็จด้านเทคโนโลยี แจ๊ค หม่าบอกว่า เป็นเพราะเมื่อเจอปัญหา จีนจะหาทางแก้ก่อน แล้วค่อยสร้างกฎมาควบคุมทีหลัง ต่างกันกับฝั่งยุโรปที่เมื่อเจอปัญหาจะเน้นสร้างกฎระเบียบขึ้นมาก่อน ?
เหตุที่จีนประสบความสำเร็จเรื่องเทคโนโลยี เพราะเราแก้ปัญหาก่อนสร้างกฎ
แจ๊ค หม่าไปร่วมงานประชุมที่วีว่าเทค (Viva Technology) ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงปารีส โดยมีช่วงหนึ่งที่เป็นช่วงถามตอบคำถามบนเวที เขาได้พูดถึงเหตุผลเบื้องหลังที่จีนประสบความสำเร็จด้านเทคโนโลยี นั่นก็เพราะเมื่อจีนเจอปัญหา สิ่งแรกที่จีนจะทำคือมุ่งแก้ปัญหาก่อน แล้วค่อยสร้างกฎระเบียบ-ข้อห้ามขึ้นมาบังคับใช้ทีหลัง จุดนี้ต่างกันกับฝั่งยุโรปที่เมื่อเจอปัญหา จะเน้นการสร้างกฎระเบียบ-ข้อห้ามก่อนเป็นอย่างแรก แล้วค่อยแก้ปัญหา
- “ยุโรปมีกฎระเบียบและข้อห้ามที่ดีมาก ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎต่างๆ ที่วางไว้ ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาขึ้น สิ่งที่ยุโรปทำคือสร้างกฎและข้อห้ามขึ้น ผมเป็นห่วงยุโรปมากๆ เพราะสำหรับจีน เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เราจะแก้ไขปัญหาก่อน แล้วจึงค่อยสร้างกฎระเบียบ-ข้อห้ามตามมาทีหลัง”
หม่า ยังบอกด้วยว่า หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้บริเทคโนโลยีจีนเติบโตและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะในอดีตรัฐบาลจีนยังไม่มีกฎระเบียบ-ข้อห้ามที่ชัดเจนเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต เนื่องจากยุคนั้นรัฐบาลจีนยังไม่รู้ว่าจะสร้างกฎอะไรขึ้นมาควบคุม และนี่คือโอกาสสำคัญที่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีจีน (เช่น Alibaba) เติบโตแบบก้าวกระโดด
- “ถ้าย้อนไปสัก 20 ปีที่แล้ว ใครจะคิดว่าวันหนึ่งจีนจะขึ้นมาเป็นคู่แข่งกับสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 20 ปีให้หลัง หลายๆ คนก็กังวลว่าจีนจะมีอำนาจมากเกินไปขนาดนั้น แต่ผมไม่คิดแบบนั้น”
อย่างไรก็ตาม ประเด็นอื่นๆ ที่หม่าได้แสดงความคิดเห็นไว้อย่างน่าสนใจในงานเทคโนโลยีที่กรุงปารีสครั้งนี้ คือการย้ำอีกครั้งว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวหรือชั่วร้าย ซึ่งอันที่จริง หม่าก็เคยพูดไว้นานแล้วว่า อย่ากลัวหุ่นยนต์ เพราะสิ่งนี้เองคืออนาคตของโลก
- “พวกคุณอาจจะกังวลกับปัญญาประดิษฐ์ เพราะแน่นอนว่าเรายังไม่มีทางออกสำหรับมัน หรือคุณอาจจะคิดไปว่ามันจะมาทำลายล้างหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ผมอยากจะบอกพวกคุณอย่างหนึ่งว่า เราในฐานะ Alibaba ใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณมองว่าการปฏิวัติทางเทคโนโลยีมันเป็นปัญหา ผมก็ขอแสดงความเสียใจด้วยที่ต้องบอกว่าปัญหามันได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ถ้าคุณมองว่ามันคือโอกาส มันก็คือจุดเริ่มต้นเช่นกัน แต่จุดต่างของมันคือวิธีคิด (mentality) เพราะถ้าคุณคิดว่ามันเป็นปัญหา คุณก็จะคิดว่ามันเป็นปัญหาทุกครั้งอยู่ร่ำไป”
ที่มา – Venturebeat
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา