เจาะลึก ‘อิสราเอล’ ประเทศเล็กที่มีนวัตกรรมมาแรง แซงหน้าสหรัฐอเมริกาได้

หากพูดถึงประเทศที่มีชื่อเสียงด้านนวัตกรรมระดับโลก หลายๆ คนคงนึกถึงสหรัฐอเมริกาขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ

แต่ความจริงแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่มีจำนวนนวัตกรรมแซงหน้าสหรัฐอเมริกา เช่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี สวีเดน เดนมาร์ก และอิสราเอล (จากการจัดอันดับของ Bloomberg ในปี 2021)

บทความนี้ Brand Inside ขอพามาเจาะลึก ‘ประเทศอิสราเอล’ เพื่อให้คุณผู้อ่านได้เรียนรู้ว่าทำไมประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 9 ล้านคนนี้ ถึงได้มีนวัตกรรมแซงหน้าสหรัฐอเมริกา

อิสราเอล

ประเทศอิสราเอลยิ่งใหญ่แค่ไหน

ต้องบอกก่อนว่า Bloomberg ได้จัดอันดับประเทศนวัตกรรม โดยใช้ตัวชี้วัดหลายอย่างด้วยกัน เช่น

  • จำนวน R&D จำนวนบริษัทที่มีเทคโนโลยีสูง
  • จำนวนสิทธิบัตรที่ถือครอง
  • โดยจากการจัดอันดับประเทศต่างๆ ทั่วโลก อิสราเอลขึ้นไปอยู่อันดับที่ 6 และสหรัฐอเมริกาตามมาที่อันดับ 11

แม้สหรัฐอเมริกาจะตกลงมาอยู่อันดับต่ำกว่า แต่ก็คว้าอันดับ 1 ในฐานะประเทศที่มีบริษัทเทคโนโลยีมากที่สุดในโลกไปครอง เพราะเป็นต้นกำเนิดของบริษัทชื่อดังมากมาย เช่น Google, Apple, Facebook, Twitter, Tesla, Amazon, Microsoft และ Intel 

ความน่าสนใจคือ บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกล้วนเคยเข้ามาทำ R&D (Research and development) ที่อิสราเอล ไม่ว่าจะเป็น IBM, Samsung, Paypal, GE, AT&T, Motorola และผู้บริหารหลายๆ ท่านก็เคยชื่นชมศักยภาพของประเทศนี้ให้เราฟังกันอยู่บ่อยครั้ง

  • Eric Schmidt อดีตผู้บริหาร Google เคยกล่าวไว้ว่า “อิสราเอลเป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีขั้นสูงอันดับสองรองจากสหรัฐอเมริกา” 
  • Maxine Fassberg ผู้บริหาร Intel ก็เล่าว่า “Intel จะประสบความสำเร็จขนาดนี้ไม่ได้เลย ถ้าขาดบุคลากรที่มีความสามารถและความคิดสร้างสรรค์จากอิสราเอล”

ในด้านเศรษฐกิจ อิสราเอลเป็นประเทศที่มี GDP เติบโตต่อเนื่องหลายปีซ้อน รวมถึงมีอัตราการว่างงานเพียง 5% ส่วนในด้านการศึกษา อิสราเอลมีจำนวนคนเรียนต่อปริญญาเอกมากที่สุดในโลก

นอกจากนั้น จากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น รัฐบาลอิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศที่บริหารจัดการวัคซีนได้ดี จนมีสถิติออกมาว่าอิสราเอลมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุดในโลก

คำถามคือ ปัจจัยอะไรทำให้อิสราเอลประสบความสำเร็จขนาดนี้

1. การสนับสนุนของรัฐบาล

รัฐบาลอิสราเอลให้ความสำคัญกับนวัตกรรมมากถึงขนาดที่ กล้าลงทุนในธุรกิจที่ดูมีความเสี่ยงสูง เพื่อเปิดทางให้ภาคเอกชนกล้าเข้ามาลงทุนในหลายๆ ธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต

นอกจากนี้ ยังมี Israeli Innovation Authority หรือหน่วยงานนวัตกรรมที่ช่วยจัดหาเงินทุนมาให้กับธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศ ซึ่งหน่วยงานนี้จะถูกแบ่งออกเป็นแผนกย่อยๆ เช่น แผนกสตาร์ทอัพ, แผนกเทคโนโลยี, แผนกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

โดยแต่ละแผนกจะมีชุดความรู้และแผนงานเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการทดสอบไอเดีย พัฒนาผลิตภัณฑ์ และดึงดูดภาคเอกชนให้เข้ามาลงทุนในนวัตกรรมของพวกเขา ทำให้คนที่มีความคิดริเริ่มใหม่ๆ กล้าลองและไม่กลัวความล้มเหลว

นี่เป็นวิธีคิดสำคัญที่ทำให้เกิดนวัตกรรมเปลี่ยนโลกมานักต่อนักแล้ว

2. การให้ความสำคัญกับ R&D

รายได้หลักของอิสราเอลขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น โทรคมนาคม เคมีภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เทคโนโลยีอวกาศการบิน และพลังงานทดแทน

อิสราเอลเลยให้ความสำคัญกับการค้นคว้าวิจัยมากถึงขนาดที่มีศูนย์ R&D กว่า 350 แห่งในประเทศ และมีสัดส่วนค่าใช้จ่าย R&D ต่อ GDP ถึง 4.3% ซึ่งถือว่ามากกว่าเกาหลีใต้ ฟินแลนด์ สวีเดน และญี่ปุ่น ทำให้อิสราเอลมีนวัตกรรมออกมามากมาย เช่น

  • Rewalk นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกกลับมาเดินได้โดยไม่ต้องใช้รถเข็น ซึ่งมีผู้ใช้งานอุปกรณ์นี้ในงานแข่งขันกีฬา Paralympics ด้วย

  • เครื่อง SniffPhone ที่สามารถวินิจฉัยโรคจากการดมกลิ่น ทำให้ตรวจโรคต่างๆ ได้อย่างสะดวกมากขึ้น แถมยังมีความแม่นยำถึง 93%

  • เทคโนโลยี SparkBeyond ที่ใช้ AI ตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยอ้างอิงจากประวัติสุขภาพของผู้ป่วย

3. สภาพภูมิศาสตร์ที่ไม่เอื้ออำนวยผลักดันให้เกิดนวัตกรรม

อิสราเอลตั้งอยู่ในแถบทะเลทราย และมีพื้นที่เล็กกว่าภาคอีสานของไทย ซึ่งสภาพภูมิศาสตร์อันแห้งแล้งและปัญหาขาดแคลนทรัพยากรนี้เองที่ทำให้ชาวอิสราเอลต้องคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ขึ้นมาเพื่อความอยู่รอด เลยเกิดผลพลอยได้คืออิสราเอลกลายเป็นแหล่งเกษตรกรรมให้ชาวอเมริกันและชาวยุโรปปีละมหาศาล

ตัวอย่างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติของอิสราเอล เช่น

  • เทคโนโลยีเปลี่ยนน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืด, เทคโนโลยีเปลี่ยนน้ำเสียให้กลับมาดื่มใหม่ได้, ระบบชลประทานแบบน้ำหยด (Drip Irrigation System) ที่ใช้น้ำน้อยแต่พืชดูดซึมไปใช้ได้ถึง 95% ทำให้อิสราเอลได้รับฉายาว่าเป็น ‘มหาอำนาจด้านเทคโนโลยีจัดการน้ำ’

  • เทคโนโลยีกลั่นน้ำจากอากาศของบริษัท Watergen ที่ช่วยให้ผู้ประสบภัยและคนทั่วไปมีน้ำสะอาดไว้ดื่ม

โดยสรุป

จะเห็นได้ว่าประเทศเล็กๆ อย่างอิสราเอลสามารถมีนวัตกรรมล้ำหน้าประเทศยักษ์ใหญ่ได้ เพราะประชาชนมีเป้าหมายใหญ่ร่วมกัน รวมถึงได้รับความช่วยเหลือจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

ดังนั้น เมื่อหันมามองในมุมของประเทศไทยบ้าง ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ ก็ควรได้รับการสนับสนุนมากขึ้นในเรื่องนวัตกรรมเช่นเดียวกัน

สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักประเทศอิสราเอลมากกว่านี้ สามารถอ่านต่อได้ที่ : อิสราเอล…ขุมทรัพย์นวัตกรรมกลางทะเลทราย (โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ)

ที่มา : Forbes, Innovationisrael, Worldpopulationreview,Theculturetrip

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา