ภาพรวมเศรษฐกิจโลก และประเทศไทยปี 2024 ยังต้องเฝ้าระวัง ผ่านหลายปัจจัยที่ต้องติดตาม โดย Innovest X ธุรกิจด้านการลงทุนของ SCBx มองว่า อัตราดอกเบี้ยคือสิ่งที่ทรงพลังที่สุดในการทำให้ภาพรวมการลงทุน รวมถึงเศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน Geopolitics หรือภูมิรัฐศาสตร์ ยังเป็นอีกเรื่องที่ทุกคนต้องเฝ้าระวัง เช่น สงครามที่ในอดีตที่มีช่วงเวลาสิ้นสุดที่ชัดเจน แต่ปัจจุบันเป็นสงครามระยะยาว รวมถึงสงครามตัวแทน จนอาจทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจ และการลงทุนเกิดการผันผวนตลอดปี 2024
รายละเอียดเชิงลึก รวมถึงกลยุทธ์การลงทุนในปี 2024 จะเป็นอย่างไร Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด และทีมนักวิเคราะห์ จนได้คำตอบมาดังนี้
ดอกเบี้ย และภูมิรัฐศาสตร์ต้องจับตา
สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ดอกเบี้ยคือสิ่งที่มีพลังมากที่สุด ผ่านการสร้างความผันผวนให้กับตลาดการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งปี 2024 หากเกิดดอกเบี้ยขาลงย่อมสร้างผลดีให้กับตราสารหนี้คุณภาพดี
“ดอกเบี้ยน่าจะมีพลังมากที่สุด ทุกคนมั่นใจว่าดอกเบี้ยนั้นพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว มีหลากหลายมุมมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ยกี่ครั้ง ซึ่งการทำแบบนี้สร้างความผันผวนให้กับตลาดได้มากที่สุด ดังนั้นการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจึงจำเป็นหลังจากนี้ ไม่ใช่ทิ้งเงินไว้สินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง หรือประเทศเดียว”
ขณะเดียวกัน ภูมิรัฐศาสตร์ คืออีกเรื่องที่ต้องจับตามองในปี 2024 เช่นการทำสงครามในปัจจุบันไม่ได้รุนแรงแล้วจบเหมือนในอดีต แต่เป็นสงครามตัวแทน และมีความยืดเยื้อ จนปฏิเสธไม่ได้ว่าสงครามไม่มีผลกับการลงทุน ทั้งยังมีผลกับตลาดหุ้นอีกด้วย จากเดิมที่มีผลกับน้ำมัน, ค่าเงิน หรืออื่น ๆ
สงครามที่มากกว่าแค่การสู้รบด้วยอาวุธ
ยิ่งสงครามในปัจจุบันไม่ได้มีแค่สงครามที่สู้รบด้วยอาวุธ แต่ยังหมายถึงสงครามการค้า, เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ดังนั้นความขัดแย้งในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์จึงมีรายละเอียดมากกว่าเดิม เช่น หลายบริษัทย้ายการลงทุนออกมาจากประเทศจีน และไปหาโอกาสลงทุนในประเทศอื่น หากนักลงทุนเข้าใจ ย่อมหาโอกาสภายใต้วิกฤตินี้ได้
“ปีนี้เขาเลือกตั้งกันทั้งโลกยกเว้นประเทศไทย เพราะเลือกตั้งไปแล้ว ถือเป็นอีกจุดชี้วัดที่ต้องจับตา ต่อให้ดอกเบี้ยลง เศรษฐกิจเหมือนจะดีขึ้น แต่นักลงทุน และคนทำธุรกิจต้องไม่ประมาทปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ เพราะสงครามทุกรูปแบบจะอยู่กับเราไปอย่างต่อเนื่อง และยากที่จะคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร”
สุกิจ เสริมว่า Innovest X มองปี 2024 เป็นการลงทุนเน้นคุณค่า เนื่องจากตลาดหุ้นไทยมีหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว ตลาดหุ้นในฝั่งเอเชียมีความน่าสนใจมากกว่าตลาดสหรัฐฯ และ ยุโรป griktเศรษฐกิจยังมีอัตราการเติบโตในระดับสูง อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลง
มอง SET Index อยู่ที่ 1,650-1,700 จุด
ปิยศักดิ์ มานะสันต์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน Innovest X กล่าวว่า เศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วทั้งสหรัฐฯ และยุโรป กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 และจะทำให้ Fed ลดดอกเบี้ย 1% ในครึ่งปีแรก ขณะที่เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยแรงหนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่ยังเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างโดยเฉพาะเงินฝืด
ด้านเศรษฐกิจไทยในปี 2024 มาตรการ digital wallet เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2567 หากมาตรการ Digital Wallet ผ่านตามที่นายกฯ ประกาศจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 4.1% แต่หากมาตรการไม่ผ่าน เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เพียง 3.2% โดยคาดว่า ธปท. จะไม่ลดดอกเบี้ยในปี 2567 โดยมี 2 ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่เงินเฟ้อที่หดตัวต่อเนื่อง และการทำโครงการ Digital Wallet ของรัฐบาล
Innovest X ประเมินเป้าหมาย SET Index อยู่ที่ 1,650-1,700 จุด โดยจุดเข้าซื้อที่สำคัญอยู่ที่ 1,400-1,450 จุด ชี้เป้าหุ้นเด่นปี 2567 เน้นโฟกัสที่คุณภาพและการฟื้นตัวของผลประกอบการ ได้แก่ AMATA BBL BEM BDMS CPALL CRC GULF OR SCC และ SCGP
ส่องกลยุทธ์การลงทุนทั่วโลก
สุทธิชัย คุ้มวรชัย นักวิจัยการลงทุนอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน Innovest X เปิดเผยว่า ในปี 2024 กำลังเข้าสู่วงจรเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าศักยภาพจนทำให้ธนาคารกลางทั่วโลก ยกเว้นญี่ปุ่น จะเริ่มเห็นการลดดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้น ดังนั้นคำแนะนำในการจัดสรรสินทรัพย์ สำหรับปีนี้สรุปได้ดังนี้
- เน้นการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูง ทั้งพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนที่มีอันดับ Investment Grade ขึ้นไป ซึ่งได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลงในอนาคต
- การลงทุนในหุ้นเอเชียรวมถึงไทยน่าสนใจกว่าตลาดพัฒนาแล้ว จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ขณะที่การลงทุนในหุ้นโลกช่วง 2H24 เริ่มกลับมาดีขึ้นตามเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้น โดยจะเน้นไปในหุ้น Value และ Cyclical
- กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ และ REITs
สิทธิชัย ดวงรัตนฉายา นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน Innovest X เผยถึงกลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 1 ปี 2567 ว่า ภาพรวมการลงทุนในไตรมาสแรกของปี 2024 ยังคงมีความผันผวนสูง คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสเกิดภาวะถดถอย แต่หุ้นไทยและเอเชียที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจะมีความน่าสนใจลงทุนมากกว่าหุ้นในตลาดพัฒนาแล้ว
ในส่วนของประเทศไทยมองตลาดหุ้นไทยจะปรับเพิ่มขึ้น แต่ความผันผวนจะมีตลอดทั้งปี ปัจจัยหนุนมาจากงบประมาณที่กำลังทยอยเบิกจ่าย และมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ กลุ่มหุ้นยั่งยืน (ESG) จะมีความสำคัญ และได้รับความสนใจเข้าลงทุนเพิ่มมากขึ้น
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองเศรษฐกิจจีนปี 67 โตชะลอที่ 4.5% เผยความเสี่ยงภาคอสังหาฯ – ภาวะเงินฝืด
- เศรษฐกิจจีนเติบโตอ่อนแอที่สุดในรอบกว่า 30 ปี: ภาคอสังหาฯ ยังแย่ ความเชื่อมั่นยังไม่ฟื้นตัว
ด้านหุ้นต่างประเทศแนะนำลงทุนหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธีมเทคโนโลยีที่ได้ประโยชน์จากการใช้งาน AI ซึ่งเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์อยู่ในช่วงวัฏจักรขาขึ้น การฟื้นตัวยังน่าสนใจในช่วงครึ่งแรกปี 2567 นอกจากนั้นยังเน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่ราคาลดลงแรง
อ้างอิง // Innovest X
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา