“ไอเอ็นจี” สถาบันการเงินจากเนเธอร์แลนด์ได้ปรับคาดการณ์ GDP ของไทยในไตรมาส 2 มาเป็น -12.8% และมองว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเหลือนโยบายทางการเงินไม่มากแล้ว
ING สถาบันการเงินจากเนเธอร์แลนด์ ได้ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยว่า นโยบายการเงินของไทยนั้นแทบที่จะไม่เหลือแล้วด้วยซ้ำ โดยอ้างอิงคำพูดของ ทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการฯ สายนโยบายการเงิน ว่าแบงก์ชาติต้องการที่จะสงวนขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน หรือ Policy Space เผื่อสำหรับกรณีที่ย่ำแย่ที่สุด
- ครม. มีมติแต่งตั้ง “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” เป็นผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่แทน “วิรไท”
- แบงก์ชาติชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 คือจุดต่ำสุด คาดว่าปี 2022 เศรษฐกิจไทยถึงฟื้นเท่าก่อน COVID-19
- HSBC ชี้แบงก์ชาติมีโอกาสเข็นมาตรการ QE ออกมาถ้าเศรษฐกิจไทยแย่ในครึ่งปีหลัง
ขณะเดียวกัน ING ก็ได้กล่าวถึงข่าวลือที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่อย่าง เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ อาจมีนโยบายผ่อนคลายการเงิน หรือ QE และทำให้นักลงทุนและสถาบันการเงินมีความอยากรู้ถึงนโยบายการเงินของผู้ว่าคนใหม่หลังจากนี้ อย่างไรก็ดี ING มองว่าการทำ QE ของไทยนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ในระยะใกล้ๆ นี้
ทางด้านของเศรษฐกิจไทยนั้น GDP ในไตรมาส 2 ทาง ING มองว่าจะติดลบมากถึง -12.8% มากที่สุดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยเป็นต้นมา จากปัญหาของ COVID-19 ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย โดย ING ได้ปรับลด GDP ไทยในไตรมาส 2 ลงเนื่องจากตัวเลขต่างๆ ของเศรษฐกิจไทยไม่น่าจะดี แม้ว่าตัวเลขภาคการผลิตของไทยจะกลับมาดีขึ้นเล็กน้อยก็ตาม
ING ยังมองว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินวันพุธนี้ยังจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% คงเดิม และ ING ยังเชื่อว่าตลาดก็คิดแบบเดียวกันด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา