กองทุนการเงินระหว่างประเทศ มองว่าเศรษฐกิจในยุโรปในตอนนี้กำลังอาจพบกับความเสี่ยงใหม่ และมองว่ารัฐบาลแต่ละประเทศ รวมไปถึงธนาคารกลางยุโรปต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่านี้
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ออกแถลงการณ์ให้ประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปนั้นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นนโยบายการคลังจากรัฐบาล หรือแม้แต่การสนับสนุนจากธนาคารกลางยุโรป เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจของยูโรโซนได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ซึ่งส่งผลทำให้หลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ต้องมีมาตรการปิดเมืองชั่วคราวอยู่ในขณะนี้
รายงานของ IMF ยังมองถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะส่งได้ไวสุดในเร็วๆ นี้นั้น แต่มุมมองของ IMF มองว่าวิกฤติของ COVID-19 นี้นั้นประเทศต่างๆ ในยุโรปจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีกว่าเดิม อย่างไรก็ดีแนวโน้มของการแพร่ระบาดรอบใหม่นั้นกลับทำให้เศรษฐกิจของยุโรปในไตรมาส 4 นั้นอาจมีสภาวะถดถอยมากกว่าเดิม
มุมมองของ IMF ยังมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในทวีปยุโรปแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปอาจช้าเกินไปจนเมื่อถึงเวลาที่โลกการเงินเปลี่ยนนโยบายจากมาตรการผ่อนคลายที่กำลังใช้อยู่ตอนนี้มาเป็นนโยบายทางการเงินแบบเข้มงวด อาจทำให้เกิดความเสี่ยงใหม่ในภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงการจ้างงานที่อ่อนแอในขณะนี้
IMF ยังมองว่าด้วยปัจจัยหลากหลายรวมกันนั้นอาจทำให้เศรษฐกิจของยุโรปนั้นมี “แผลเป็นทางเศรษฐกิจ”
ขณะเดียวกันความไม่แน่นอนในเรื่องของความสัมพันธ์กับสหราชอาณาจักรในการเจรจาการค้า รวมไปถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยิ่งทำให้เศรษฐกิจยุโรปอยู่ในสภาวะคลุมเครือมากขึ้น
โดยที่ IMF สนับสนุนเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกองทุนฟื้นฟูยุโรปมูลค่ากว่า 750,000 ล้านยูโร และมีมุมมองว่าถ้าหากมีการใช้จ่ายเงินในกองทุนนี้อย่างเต็มที่จะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ไวกว่าเดิม อย่างไรก็ดีถ้าหากเม็ดเงินในกองทุนนี้ออกมาช้ามากเท่าไหร่ IMF มองว่าจะยิ่งส่งผลเสียกับเศรษฐกิจมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ IMF ยังมองว่านโยบายการคลังของรัฐบาลในแต่ละประเทศยังมีส่วนสำคัญสุดในการป้องกันผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ณ ตอนนี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา