IMF คาดการณ์ปี 64 เวียดนาม อินโด มาเลย์ฟื้นตัว สิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ยังแย่

IMF ออกมาเปิดเผยว่า ประเทศที่มีเศรษฐกิจนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6 ประเทศนั้น ในปี 2564 พบว่าเวียดนาม อินโดนีเซียและมาเลเซียจะฟื้นตัวเต็มที่เหมือนช่วงก่อนโควิดระบาดได้ แต่สิงคโปร์ ไทย และฟิลิปปินส์ยังติดกับดักโควิดไม่เลิก

Crowds of Asian people wearing face protection while going to their workplace in Bangkok at morning rush hour
crowds of Asian people wearing face protection while going to their workplace in Bangkok at morning rush hour. wear medical face mask to protect from infection of viruses, pandemic, outbreak and epidemic of disease in crowded

หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีบทความวิเคราะห์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้น่าจะมีเศรษฐกิจที่ยังแย่ต่อไปในปี 2564 ทั้งโควิดที่ยังระบาดไม่หยุด และความซบเซาจากเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่ก่อนหน้า ตอนนี้ดูท่าทีแล้วประเทศที่จะมีเศรษฐกิจที่สดใสในภูมิภาคนี้มีแล้ว 3 แห่ง

IMF คาดว่า เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซียจะมีเศรษฐกิจที่ขยายตัวมากขึ้นในปีหน้า ปี 2564 แต่ก็ยังต้องเจอกับความไม่แน่นอนของโควิด-19 ระบาดและการขึ้นมาบริหารประเทศของรัฐบาลชุดใหม่อย่างโจ ไบเดนด้วย

โดย S&P Global คาดการณ์เวียดนามจะมีเศรษฐกิจขยายตัวถึง 10.9% ตามมูลค่าที่แท้จริงในปี 2564 หมายความว่ามีปริมาณผลผลิตและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้น 10.9% เพิ่มขึ้นมากว่าประเทศอื่นที่เหลือราว 2.9% ส่วนหนึ่งต้องไม่ลืมว่าเวียดนามจัดการคุมโควิดระบาดได้ดีมากในปี 2563 ซึ่ง Nikkei ปรับตามฐานของ real gdp ของ IMF ปี 2564 นี้อยู่ที่ 100 เวียดนามได้ไป 108.4

Hanoi Vietnam ฮานอย ประเทศเวียดนาม
ภาพจาก Shutterstock

เวียดนามเป็นหนึ่งในหกประเทศที่เศรษฐกิจกิจขยายตัวในปี 2563 และยังจัดการโควิดระบาดได้อย่างรวดเร็วซึ่งก็เป็นผลมาจากความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพของเวียดนามที่สั่งการมาตั้งแต่เดือนมกราคม หลายบริษัทต่างแห่แหนกันมาลงทุนในเวียดนาม หวังเป็นที่พึ่งของฐานการผลิตใหม่

ขณะเดียวกันเวียดนามก็ส่งออกเพิ่มมากขึ้น ทั้งปัจจัยที่มาจากต้นทุนการผลิตที่ต่ำ และการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนมีขึ้นต่อเนื่อง กอปรกับความสัมพันธ์ที่ระหองระแหงระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงไม่หยุด เหล่านี้ล้วนเกื้อหนุนให้เวียดนามโดดเด่นเหนือใครในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้านอินโดนีเซียอยู่ที่ 104.5 หลังจากรัฐบาลเพิ่งออก ominbus law หรือกฎหมายสร้างงานที่ลงนามโดยประธานาธิบดีโจโควีเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะให้บริษัทต่างๆ มีอิสระมากขึ้น และช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ขณะที่มาเลเซียเองอยู่ที่ 101.3 อาจจะฟื้นตัวจากภาคการส่งออกสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์และไทยนั้นยังไม่สามารถก้าวข้าม 100 ไปได้จนถึงปี 2565

ภาคการท่องเที่ยวของไทยนั้นคิดเป็นสัดส่วน 20% ของ GDP คาดว่าปีหน้าก็ยังประสบปัญหาอยู่เพราะรัฐบาลไทยก็ยังไม่ส่งสัญญาณชัดเจนถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในประเทศ การส่งออกรถยนต์มีความเติบโตแต่ก็ไม่ได้ฟื้นขึ้นจากปี 2563 มากนัก 

(Photo by Ore Huiying/Getty Images)

ด้านฟิลิปปินส์เอง ภาพรวมการบริโภคซบเซา ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์และสินค้าอื่นชะลอลงตามไปด้วย ภาคการท่องเที่ยวสิงคโปร์ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า นอกจากนี้ วัคซีนต้านโควิดที่เริ่มมีกระจายจำหน่ายจ่ายแจกในหลายประเทศแล้วแต่ก็ยังไม่มีการพิสูจน์ว่าจะสามารถจัดการกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์ในอังกฤษและอีกหลายประเทศในยุโรปและแอฟริกาใต้ได้หรือไม่

ด้านไบเดนก็มีแนวโน้มว่าอาจใช้นโยบายปกป้องทางการค้ามากขึ้นหลังจากที่ไม่แสดงท่าทีที่จะเข้าร่วมหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจแปซิฟิก ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ก็กำลังจับตาดูเวียดนามอยู่ว่ากำลังปั่นค่าเงินอยู่หรือไม่

ที่มา – Nikkei Asia

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา