UN รายงาน โควิดกระทบผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เสี่ยงตกงาน ไม่ได้ค่าจ้าง โอกาสได้งานใหม่น้อย

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ของ UN รายงานว่าผู้หญิงวัยทำงานได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดมากกว่าผู้ชาย และอัตราการจ้างงานของผู้ชายจะฟื้นตัวเร็วกว่าผู้หญิงในช่วงปี 2021-22

ผู้หญิงเสี่ยงตกงาน รายได้ลด ทำงานหนักกว่าผู้ชายในยุคโควิด

ในช่วงที่มาตรการควบคุมโควิดยังเคร่งครัดอยู่มาก ผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงกว่าในด้านของการเลิกจ้างหรือการลดเวลาทำงาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมโรงแรม ร้านอาหาร และโรงงาน ซึ่งส่งผลต่อรายได้ที่ลดลง

นอกจากรายได้ที่ลดลงอย่างมากแล้ว ผู้หญิงส่วนหนึ่งยังต้องทำงานเพิ่มขึ้นแบบไม่ได้ค่าแรงอีกด้วย โดยเฉพาะกิจกรรมประเภทการดูแลบ้าน การเลี้ยงดูลูก หรือ การสอนเด็กเล็ก ที่ตกมาสู่ผู้หญิงตามค่านิยมของสังคม เพราะโรงเรียนหรือสถานดูแลเด็กต้องปิดตัวลงก็ตาม สถานการณ์โควิดทำให้ความเท่าเทียมทางเพศแย่ลงในหลายประเทศทั้งที่มีความเท่าเทียมน้อยอยู่แล้ว

ในอีกด้านหนึ่ง อาชีพแนวหน้ามีอัตราส่วนของผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอย่างมาก เช่น หมอและพยาบาลมีอัตราส่วนของผู้หญิงถึง 70-75% ในแต่ละหมวดหมู่ อีกทั้งอาชีพบริการอย่างพนักงานในซูเปอร์มาร์เก็ตก็ทำให้ผู้หญิงเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดมากกว่าผู้ชายหลายเท่า

อัตราเลิกจ้างสูงกว่า และถูกจ้างใหม่น้อยกว่าผู้ชาย

ILO รายงานว่าผู้หญิงถูกเลิกจ้างไปกว่า 4.2% จากสถานการณ์โควิด หรือเท่ากับมีผู้หญิง 54 ล้านคนที่ตกงาน มากกว่าผู้ชายที่ตกงานไป 3% หรือเท่ากับ 60 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับปี 2019 แล้ว คาดการณ์ว่าผู้หญิงจะถูกจ้างงานน้อยลงในปี 2021 กว่า 13 ล้านคน เมื่อเทียบกับผู้ชายที่จะถูกจ้างงานเท่ากับปี 2019

ในปี 2021 จะมีผู้หญิงวัยทำงานเพียง 43.2% เท่านั้นที่จะได้งาน ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ชายจำนวน 68.6% ถูกคาดว่าจะได้งานในช่วงปีนี้

สรุป

สถานการณ์โควิดทำลายทั้งธุรกิจและอาชีพไปหลายส่วนทั่วโลก แต่ผลกระทบต่อผู้หญิงกลับมีมากกว่าส่วนตัวคิดว่าธุรกิจและรัฐบาลควรรับรู้และสนับสนุนพนักงานอย่างเท่าเทียมกันให้มากที่สุด

ที่มา – Reuters, ILO 1 2

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา