สยบข่าวลือที่มีมาก่อนหน้า สำหรับ Howard Schultz ผู้ปลุกปั้นเชนร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks ที่ล่าสุดเขาได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในปี 2020 อย่างแน่นอน
ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แบบไม่สังกัดพรรคใด
Howard Schultz (โฮวาร์ด ชูลทส์) ผู้ปลุกปั้นแบรนด์ Starbucks จนประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The New York Times และรายการสุดโด่งดังอย่าง “60 Minutes” ของ CBS ว่า เขากำลังพิจารณาอย่างหนักสำหรับการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในปี 2020 ที่จะมาถึง และจะลงเลือกตั้งในฐานะผู้สมัครอิสระ ไม่สังกัดพรรคใดๆ
- Schultz ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้สหรัฐอเมริกาอยู่ในยุคที่เปราะบางมากที่สุด และไม่ใช่เพียงแค่ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน (โดนัล ทรัมป์) ที่ขาดคุณสมบัติเท่านั้น แต่ความจริงก็คือทั้งสองพรรคการเมืองต่างไม่ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับชาวอเมริกัน มัวแต่แก้แก้แค้น(ทางการเมือง)กันไปมาเท่านั้น
ที่จริงแล้ว ใครที่ตามข่าวของ Schultz มาตลอด อาจไม่แปลกใจที่เขาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะเขาได้เตรียมการไว้แล้ว โดยในขณะนี้เขาเป็นเพียงอดีตประธานบอร์ดบริหารของ Starbucks เท่านั้น เนื่องจากลาออกมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018 และถ้าย้อนไปก่อนหน้านั้นเขาได้ส่งไม้ต่อตำแหน่งซีอีโอให้กับ Kevin Johnson อดีตผู้บริหารไมโครซอฟท์เมื่อปี 2017
สำหรับประเด็นการลงเลือกในฐานะผู้สมัครอิสระ Schultz บอกว่า แม้เขาจะสนับสนุนพรรคเดโมแครตมาตลอด แต่รอบนี้เขาขอไม่สังกัดพรรคใดๆ หลายคนมองว่าเขาสนับสนุนพรรคเดโมแครตมาตลอด ก็น่าจะลงสมัครในฐานะตัวแทนจากพรรคเดโมแครต แต่เขาปฏิเสธพร้อมบอกว่าพรรเดโมแครตในยุคนี้ “ซ้ายเกินไป” โดยเขาไม่เห็นด้วยกับนโยบายที่นักการเมืองยุคใหม่สายเดโมแครตพยายามเสนอ เช่น นโยบายให้เรียนฟรี หรือระบบสวัสดิการฟรีจากรัฐบาล “ผมไม่เชื่อสิ่งเหล่านี้ เพราะคำถามคือ ถ้ารัฐบาลต้องจ่ายทั้งหมดที่ว่ามา มันจะไม่ทำให้สหรัฐอเมริกาล้มละลายลงหรือ?”
ด้านพรรคเดโมแครต มองว่า การลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้ของ Schultz อาจทำให้ Trump กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง สอดคล้องกับ Neera Tanden อดีตผู้ช่วยของ Hillary Clinton ลั่นวาจาไว้ว่า หาก Schultz ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีจริง เขาจะทำการบอยคอตกาแฟของ Starbucks เพราะเขาเชื่อว่าการลงสมัครของ Schultz อาจทำให้ทรัมป์กลับมาชนะในการเลือกตั้งในปี 2020 ได้อีกครั้ง
ข้อมูล – Bloomberg, Straitstimes
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา