วิธี ย้ายข้อมูล iPhone ทั้งจาก Android และเครื่องเก่าไปใหม่

การย้ายข้อมูลจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ถือเป็นปัญหาและแอบยุ่งยากสำหรับใครหลายคนอยู่เหมือนกัน เพราะว่าสมัยก่อนเรื่องการย้ายข้อมูลในแต่ละครั้งต้องไล่ลากไฟล์ข้ามเครื่อง แถมบางทีก็ไฟล์ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ในส่วนของ iPhone นั้น สมัยก่อนเนื่องจากตัวเครื่องไม่มีช่อง External SC Card เราเลยต้องเชื่อมต่อผ่าน iTunes และโอนย้ายข้อมูล แต่ในตอนนี้ด้วยความที่เทคโนโลยีเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก การ ย้ายข้อมูล iPhone จากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่จึงง่ายมาก รวมถึงการย้ายข้อมูลจาก Android ไป iPhone ก็ง่ายมากเช่นกัน เรียกว่าทำจบได้ภายใน 1 ชม.แบบไม่กลัวข้อมูลหายไปแม้แต่ไฟล์เดียวเลย 

ก่อนจะเริ่มย้ายข้อมูล ต้องเตรียมอะไรบ้าง

  1. iPhone เครื่องเก่าจะต้องอัพเดตเวอร์ชั่นก่อน พยายามอัพเดตเป็น iOS 13-14 ให้ได้เพราะมีผลต่อการฟังค์ชันการอัพเดต
  2. สำรองข้อมูลไปไว้บน iCloud และแนะนำว่าให้ซื้อ Storage ของ iCloud ไปเลย เพราะหากมีปัญหาเช่นเครื่องหาย เราจะได้สามารถดึงข้อมูลมาได้ครบ
  3. Battery ของทั้งสองเครื่อง ต้องมากกว่า 50% เพื่อป้องกันการดับระหว่างทาง (ซึ่งหากไม่ถึงจริงๆ ระบบก็จะไม่ให้เราทำต่ออยู่ดี แนะนำว่าชาร์จไปเลยดีกว่า)

 

เริ่มต้นย้ายข้อมูล iPhone จากเครื่องเก่า ไป iPhone เครื่องใหม่ 

  1. เปิดเครื่องของทั้งเครื่องเก่าและใหม่ให้เรียบร้อย โดยที่เครื่องใหม่ให้เปิด Bluetooth ไว้ด้วย จากนั้นนำเครื่องใหม่ไปวางใกล้ๆ จะมี Popup เล็กๆ ขึ้นมาที่เครื่องเก่าเพื่อถามเราว่าจะย้ายข้อมูลไปที่เครื่องใหม่หรือไม่ ให้เรากด Continue
    ย้ายข้อมูล iPhone
  2. จากนั้นทั้งสองเครื่องจะเริ่มทำการเริ่มต้นย้ายข้อมูล โดยที่เครื่องใหม่จะขึ้นภาพ 3 มิติ ให้นำเครื่องเก่าไปทำการแสกนรูป 3 มิตินั้น (ใครเคย Sync Apple Watch จะคุ้นกับการเชื่อมต่อแบบนี้)
    ย้ายข้อมูล iPhone
  3. จากนั้นระบบจะให้เราเลือกว่าจะทำการย้ายข้อมูลแบบไหน แบบแรกคือโหลดจาก iCloud ที่เรา Sync ขึ้นไป อีกแบบคือ Transfer from iPhone
    ย้ายข้อมูล iPhone

ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ก็จะเสร็จสิ้น โดยที่ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับตัวข้อมูลว่ามีมากน้อยแค่ไหน โดยที่ห้ามนำเครื่องออกห่างจากกัน มิฉะนั้นหลุดแน่นอน และอย่าลืมเสียบสายชาร์จไว้ตลอดเวลาด้วยนะ

 

หากเครื่องเก่าของคุณหาย หรือเครื่องเก่าไม่พร้อมที่จะเอามาวางเพื่อย้ายข้อมูล หลังจากที่เราเปิดเครื่องใหม่ เลือกภาษา เลือกภูมิภาคเรียบร้อย ให้กด Setup Manually

ย้ายข้อมูล iPhone

เมื่อเราเลือก Wifi, Data and Privacy และ Setup Fingerprint/Face ID ระบบจะให้เราเลือก Apps & Data ให้เราเลือก Restore from iCloud Backup จากนั้น Login Apple ID และทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ได้เลย

ย้ายข้อมูล iPhone

หลังจากทำการย้ายเสร็จ ข้อมูลทุกอย่างจากเครื่องเก่าจะถูกย้ายไปเครื่องใหม่ทันที ทั้งรูปภาพ แอพพลิเคชั่น Note Messages

เริ่มต้นย้ายข้อมูลจาก Android ไป iPhone

สำหรับวิธีย้ายข้อมูลหรือเปลี่ยนเครื่องจาก Android ไป iPhone เครื่องใหม่นั้นไม่ยากเลย เพราะทาง Apple ได้เอาใจสาวกหุ่นกระป๋องเขียวที่กำลังปันใจด้วยแอพ “Move to iOS” โดยวิธีการย้ายข้อมูลจาก Android ไป iPhone ด้วย Move to iOS ก็ง่ายมาก 

  1. มือถือ Android โหลด Move to iOS ผ่าน PlayStore แล้วติดตั้งให้เรียบร้อย
  2. ฝั่งของ iPhone เครื่องใหม่ หลังจากเปิดเครื่องและตั้งแค่ไปเรื่อยๆ แล้วจนไปถึงหน้า App & Data ให้เลือก Move Data from Androidย้ายข้อมูล iPhone ย้ายข้อมูล iPhone
  3. จะมีรหัส 6 หลักขึ้นมา ให้เอารหัสนี้กรอกเข้าไปในแอพ Move to iOS เพื่อทำการเริ่มย้ายข้อมูล จากนั้นกด Continue และ Connect 
  4. ระบบจำเริ่มทำการย้ายข้อมูลโดยฝั่งของ Android จะโชว์ List ของสิ่งที่สามารถย้ายไป iPhone เครื่องใหม่ได้โดยไม่เสียหายย้ายข้อมูล iPhone
  5. เมื่อการย้ายเสร็จสิ้น ฝั่ง Android ให้กด Done จากนั้นมา Setting ฝั่งของ iPhone ได้เลย เริ่มต้นจากการใส่ Apple ID และทำตามขั้นตอนที่ระบบสอบถามขึ้นมาย้ายข้อมูล iPhone

เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยสำหรับการย้ายข้อมูลจาก Android ไป iPhone เครื่องใหม่ จะเห็นได้ว่าไม่ยากเลย ใช้เวลาเพียงไม่นานเท่านั้นเอง แต่ข้อจำกัดของการย้ายข้อมูลจาก Android ไป iPhone ก็มี ยกตัวอย่างเช่น ประวัติแชท LINE ซึ่งอาจจะหายไปหากคุณไม่ได้ Backup ไว้ แอพพวกธนาคารและโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็เช่นกัน อาจจะต้อง Login ใหม่ รวมถึงข้อมูลเกมที่เราเล่นไว้ใน Play Store game ก็จะหายไปด้วย อันนี้ใครที่เป็นสายเล่นเกมอาจจะต้องแสดงความเสียใจไว้ล่วงหน้าเลย 

หลังจากย้ายเสร็จ อย่าเพิ่ง Reset เครื่องเดิมนะ พยายามเช็คให้หมดว่าข้อมูลอย่างเช่นรูปภาพ หรือไฟล์ต่างๆ มาครบหรือไม่ เปิดได้หรือไม่ เพราะเป็นการย้ายข้ามระบบปฏิบัติการ อาจจะมีตกหล่นระหว่างทาง อย่ารีบร้อนกันนะทุกคน

Source : https://www.youtube.com/watch?v=8GDkLsR1ErI&t=93s

https://www.youtube.com/watch?v=kb7u-N_rFE4

https://www.youtube.com/watch?v=_VNsH_OWmRw

https://www.youtube.com/watch?v=3rHtV3ZDdgQ&t=10s

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา