โควิดเป็นเหตุ: บริการทางการแพทย์ที่บ้านมูลค่าตลาดปี 64 โตกว่า 2 พันล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าปี 2564 นี้ มูลค่าการใช้จ่ายสำหรับบริการทางการแพทย์ที่บ้านของไทย อยู่ที่ 2,200-2,300 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อยที่ 2.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

รายงานวิจัยระบุว่า ตลาดบริการทางการแพทย์ที่บ้าน (Home Healthcare) ทั่วโลกช่วงปี 2565-2569 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เฉลี่ยอยู่ที่ 5.9% สืบเนื่องมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ ทำให้ขยายการบริการนอกสถานพยาบาลได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ส่วนแบ่งมูลค่าการตลาดบริการทางการแพทย์ที่บ้านทั่วโลกในส่วนของภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรปมีการพัฒนาระบบสาธารณสุขและบริการทางการแพทย์อย่างกว้างขวาง ขณะที่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีอัตราการขยายตัวดีกว่าปี 2565-2569 นอกจากนี้ การเข้าสู่สังคมสูงวัยของหลายประเทศในเอเชียก็ทำให้มีการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ทั่วถึงมากขึ้น เช่นในญี่ปุ่นและสิงคโปร์

ก่อนหน้านี้ความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่บ้านในไทย ส่วนใหญ่จำกัดที่ผู้ป่วยอาการหนักหรือป่วยโรคเรื้อรังที่มีกำลังซื้อสูง ตอนนี้ได้ขยายขอบเขตไปที่บริการการแพทย์เชิงป้องกัน ดูแลสุขภาพและบริการที่ผู้สูงวัยต้องการบริการที่หลากหลายมากขึ้น การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ทั่วถึงมากขึ้น ส่งผลให้ผู้เล่นรายเดิมในสายธุรกิจสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล คลินิก และศูนย์ดูแลสุขภาพก็เร่งทำตลาดบริการทาการแพทย์นอกสถานที่เช่นกัน ผู้เล่นรายใหม่ที่เน้นให้บริการสุขภาพเฉพาะทั้ง SMEs และ Health Startups ก็เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเช่นกัน

บริการทางการแพทย์ที่บ้านมีความหลากหลายมากขึ้น แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้ 1) บริการพยาบาลเฉพาะทาง เช่น ดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด วางแผนโภชนาการ ติดตามการให้ยาตามแพทย์สั่ง 2) บริการหัตถการและบำบัดรักษา เช่น บริการฉีดวัคซีน เจาะเลือด กายภาพบำบัด 3) บริการผู้ดูแลช่วยเหลือที่ได้รับการฝึกอบรมและรับรอง เช่น ผู้ดูแลช่วยเหลือในการทำกิจวัตรประจำวัน บริการรถรับ-ส่งไปโรงพยาบาล

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าปี 2564 มูลค่าการใช้จ่ายสำหรับบริการทางการแพทย์ที่บ้นของไทยจะอยู่ที่ 2,200-2,300 ล้านบาท เติบโตได้เล็กน้อยที่ 2.4% (YoY) แม้ว่าตลาดจะเติบโตจากความต้องการรับบริการทางแพทย์เพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 แต่ข้อจำกัดด้านการจัดสรรบุคลากรและมาตรการป้องกันโควิด-19 ทำให้ภาพรวมตลาดยังไม่ขยายตัวมากนัก ธุรกิจน่าจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากข้อจำกัดด้านบุคลากรและภาวะกำลังซื้อที่ต้องอาศัยเวลาฟื้นตัว และคาดว่าโตได้มากขึ้น ขยายตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 7.3% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า

ที่มา – Kasikorn Research

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา