Hertz ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์จากสหรัฐอเมริกา สถานการณ์ล่าสุดย่ำแย่และมีสิทธิ์ล้มละลาย หลังจากได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และผิดนัดชำระหนี้
Hertz ผู้บริการให้เช่ารถรายใหญ่ มีสิทธิ์ที่จะล้มละลายสูง หลังจากรับผลกระทบ COVID-19 ส่งผลทำให้ผู้เช่ารถยนต์ของบริษัทลดลง ซึ่งเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีผู้เช่ารถยนต์ของบริษัทในสหรัฐอเมริกามีเพียงแค่ 20% นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าพบสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ของบริษัท กระทรวงการคลัง รวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอเจรจาต่อชีวิตธุรกิจ
- ลดเงินเดือนก็ไม่พอ TripAdvisor ปลดพนักงาน 900 คนทั่วโลก ส่วนซีอีโอประกาศไม่รับเงินเดือนทั้งปี
- ปลดคนระลอก 2 สถาปนิก นักกฎหมาย กลุ่ม Work From Home อาจตกงาน เพราะบริษัทขาดรายได้
- COVID-19 ทำอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยทรุด อาจต้องปลดคนงานถึง 750,000 คนชั่วคราว มากกว่าสมัยต้มยำกุ้ง
ผลกระทบจาก COVID-19 ส่งผลทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ทั่วโลกต้องอยู่แต่ภายในบ้าน ขณะที่การเดินทางลดน้อยลง ส่งผลทำให้กิจการเช่ารถยนต์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาบริษัทได้ออกมายอมรับว่าได้ผิดนัดชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเช่ารถยนต์ ซึ่งเส้นตายสุดท้ายของบริษัทในการชำระหนี้เหล่านี้คือในวันที่ 4 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
ไม่เพียงแค่นั้นอุตสาหกรรมเช่ารถยนต์ยังได้รับผลกระทบจากธุรกิจมาใหม่อย่าง Uber รวมไปถึง Lyft ซึ่งเป็นบริการเรียกรถ รวมไปถึงบริการเรียกรถอื่นๆ ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Moody’s บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้ลดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัทเป็น Caa3 จาก B3 และมีมุมมองเป็นลบ จากกระแสเงินสดในบริษัทกำลังจะหมดในไม่ช้านี้ แถมยังมีมุมมองว่า Hertz ใช้เวลานานในการฟื้นสภาพคล่องกลับมา แม้ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะฟื้นตัวแล้วก็ตาม
สำหรับ Hertz นั้นรายได้หลักมาจากบริการเช่ารถในสหรัฐอเมริกา โดยมีสัดส่วนมากถึง 71% ขณะที่รายได้การเช่ารถในประเทศต่างๆ มีสัดส่วนอยู่ที่ 22% เท่านั้น ขณะที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ ทางด้านของหนี้สินรวมอยู่ที่ 16,224 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 524,335 ล้านบาท
ล่าสุดบริษัทได้เริ่มว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อที่จะฟื้นฟูแก้ไขกิจการ โดยเฉพาะงบดุลของบริษัท ขณะเดียวกันบริษัทได้เตรียมทางออกสุดท้ายด้วยการประกาศล้มละลาย เพื่อที่จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ถ้าหากแผนการในการเจรจากับเจ้าหนี้ รวมไปถึงได้รับเงินจากรัฐบาลสหรัฐ ล้มเหลวขึ้นมา
อัพเดต: 23/05/2020 บริษัทได้ประกาศล้มละลายธุรกิจในสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อย หลังเจรจากับเจ้าหนี้ไม่สำเร็จ
ที่มา – Yahoo Finance, Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา