Google อาจสูญเสียรายได้ 750 ล้านดอลลาร์ จากการถูกคว่ำบาตรโฆษณาบน YouTube

ไม่ใช่แค่ไทยเท่านั้น ในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีกระแสการตั้งคำถามถึงศีลธรรมอันดีงามของการโฆษณาบนเว็บไซต์สำนักข่าวหนึ่ง จนโยงไปถึงการพูดถึง Google AdSense ระบบบริหารจัดการโฆษณา

ในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาก็เจอปัญหาทำนองนี้อยู่เช่นกัน เพราะบริษัทใหญ่ๆ อย่าง AT&T, Verizon, Johnson & Johnson เตรียมถอดโฆษณาออก เพราะพบว่าโฆษณาของพวกเขาบน YouTube ปรากฏควบคู่ไปกับคลิปที่มีความรุนแรง YouTube เจอปัญหาหนัก แบรนด์ทยอยถอนโฆษณา เพราะมีคลิปรุนแรงมากเกินไป ล่าสุด นักวิเคราะห์ประเมินว่าความเสียหายจากการถอดโฆษณานี้จะสร้างความเสียหายให้ Google ประมาณ 750 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 25,000 ล้านบาท

โลกธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่ง สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมรับมือ

นักวิเคราะห์จาก Nomura Instinet ระบุว่า การถอดโฆษณาของบริษัทแบรนด์ใหญ่ และรวมไปถึงอีกเกือบ 250 แบรนด์ที่เตรียมถอดโฆษณาบน YouTube ในครั้งนี้จะส่งผลให้ Google สูญเสียรายได้ประมาณ 750 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นยังบอกอีกว่า รายได้ของ YouTube นั้นมาจากแบรนด์ใหญ่ๆ ประมาณ 7.5% ซึ่งคาดว่าจะเป็นมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2017 แต่รายได้มหาศาลนี้อาจจะตกไม่ถึงมือ Google ในปีนี้ เพราะหากยังไม่หามาตรการมารับมือให้ทันท่วงที อาจมีหลายรายทยอยถอดโฆษณาเพิ่ม

เมื่อสื่อใหม่บนโลกออนไลน์เจอปัญหาเช่นนี้ นักวิเคราะห์ มองต่อว่า สื่อเก่าอย่างธุรกิจทีวีในสหรัฐอเมริกาน่าจะฉวยใช้โอกาสนี้ เพื่อวางแผนรับโฆษณาที่น่าจะเข้ามามากขึ้น แน่นอนว่า กลุ่มทีวีจะต้องบอกว่า ถ้ามาโฆษณาบนทีวีจะรับประกันความปลอดภัยได้มากกว่า เพราะโฆษณาของพวกคุณจะควบคุมได้

ด้านนักวิเคราะห์จาก Wall Street ประเมินว่าผลจากการถอดโฆษณาครั้งนี้น่าจะทำให้ Google มีรายได้รวมน้อยกว่าเดิมถึง 20% แต่ทาง Google ก็ไม่นิ่งนอนใจ เริ่มประกาศเลยว่า จะจ้างคนเพิ่มขึ้นเพื่อมาทำหน้าที่ทบทวนและตรวจสอบเนื้อหาที่น่าสงสัยในการโฆษณาสำหรับนักการตลาดโดยเฉพาะ

แต่ถึงอย่างนั้น นอกจากตัว Google ที่โดนหนักจาก YouTube ในรอบนี้แล้ว คาดว่าในช่วงนี้แพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Facebook, Twitter และ Snapchat ก็น่าจะต้องระมัดระวัง เพราะจะต้องถูกจับตามองไปด้วยอย่างแน่นอน

ที่มา – Business Insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา