วุฒิการศึกษาโดยเฉพาะในระดับปริญญาตรี เคยเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกให้ความสำคัญ ในฐานะสิ่งที่จะสามารถตัดสินความสามารถ และทักษะของแต่ละบุคคลได้ ยิ่งในสังคมการทำงานวุฒิการศึกษายิ่งกลายเป็นสิ่งสำคัญ
แต่ปัจจุบันแนวคิดเรื่องวุฒิการศึกษา ที่ใช้สำหรับการทำงานเปลี่ยนไปอย่างมาก ซึ่ง Ginni Rometty อดีต CEO ของ IBM มองว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่ผู้ประกอบการสามารถทำได้เพื่อปรับปรุงธุรกิจของตัวเองนั่นคือ เลิกจ้างคนทำงานโดยยึดเอาวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี 4 ปี เป็นตัวตั้ง โดยในปัจจุบันตำแหน่งงานของ IBM ที่กำลังเปิดรับสมัครพนักงานอยู่ กว่า 43% ไม่ได้ต้องการวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีแบบเดิมๆ อีกแล้ว
ที่ผ่านมา Rometty เป็นหนึ่งในคนที่สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความคิดในการจ้างงานคนทำงานของธุรกิจสายเทคโนโลยี โดยไม่ต้องคำนึงถึงวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี ซึ่งในปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ต่างจากคอร์สเรียนต่างๆ ที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า ทั้งการเรียนนอกเวลา คอร์สที่ให้ใบรับรอง หรือคอร์สที่สอนทักษะ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งเป็นการเพิ่มความไม่เท่าเทียมโดยมีผลจากการศึกษาเข้ามาเกี่ยวข้อง จากผลการสำรวจของ the Washington Post พบว่า 6 ใน 10 ของพนักงานที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องทำงานจากที่บ้านก็ตาม ต่างจากพนักงานที่ไม่ได้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เพียง 1 ใน 7 เท่านั้น ที่สามารถทำงานที่บ้านได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้เป็นผู้หญิง และคนผิวดำเป็นส่วนใหญ่
ผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตลาดการจ้างงานทั่วโลก เห็นความสำคัญของการนำระบบอัตโนมัติ และ ระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ นอกจากนี้ผู้ประกอบการก็ต้องลงทุนกับการ Reskill ของพนักงานเช่นเดียวกัน โดย Rometty แนะนำว่า 3 สิ่งที่บริษัทควรให้ความสนใจ มากกว่าวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีของพนักงาน คือ
3 สิ่ง ที่บริษัทควรทำ แทนการมองหาวุฒิการศึกษาของพนักงาน
ความอยากรู้ อยากเรียน
อย่างแรกที่ Rometty แนะนำว่าผู้ประกอบการควรให้ความสนใจคือ “ความอยากรู้ อยากเรียน” ของผู้ที่ต้องการมาสมัครเป็นพนักงาน ซึ่งความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สำคัญกว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปแล้ว แน่นอนว่าความอยากรู้อยากเรียน เป็นสิ่งที่สามารถทดสอบได้ ในช่วงของการสัมภาษณ์งาน
บริษัทต้องมีแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้
บริษัทต่างๆ ควรมีแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ ที่พร้อมให้บริการแก่พนักงาน โดยแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้นี้จะมีลักษณะคล้ายกับ Netflix คือ แทนที่จะแนะนำภาพยนตร์ที่ชอบ ก็เปลี่ยนเป็นการแนะนำคอร์สเรียนเสริมทักษะต่างๆ โดยอิงจากความสนใจ ประสิทธิภาพการทำงาน และเป้าหมายในอาชีพของพนักงานแต่ละคน
บริษัทต้องรู้ว่าตัวเองอยากได้อะไรจากพนักงาน
สิ่งสุดท้ายที่ Rometty แนะนำว่าบริษัทต่างๆ ต้องมี คือ ต้องรู้ว่าทักษะอะไรที่ตัวเองต้องการจากพนักงาน เพื่อที่บริษัทจะได้สามารถให้คำแนะนำ ชี้แนะแนวทางให้พนักงานเรียนรู้ทักษะตามที่บริษัทต้องการได้ ซึ่งต้องเป็นสิ่งที่สอดคล้องทั้งกับเป้าหมายของพนักงาน และบริษัท
ที่มา – cnbc
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา