การประสบความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะในด้านหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคงนึงถึงความสามารถ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่จะสามารถทำให้คนคนหนึ่งสามารถก้าวขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพ โดยใช้ความทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะบุคคล
โดยเฉพาะในช่วง 40-50 ปีที่ผ่านมา ถ้าจะพิจารณาความสำเร็จของคนคนหนึ่ง เราคงเคยได้ยินคำศัพท์ต่างๆ เช่น ความสามารถหลักของบุคคล (Core Competency), ทักษะเฉพาะตัว (Unique Skills), ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Deep Expertise) แสดงถึงค่านิยมในอดีตที่ถูกฝังรากลึกมานานว่าการที่บุคคลหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีความสามารถและความชำนาญเฉพาะด้าน จึงจะสามารถก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของอาชีพ
หมดยุคความชำนาญเฉพาะด้าน ยุคนี้ต้องรู้แบบองค์รวม
แต่ความจริงแล้ว Vikram Mansharamani อาจารย์จากมหาวิทยาลัย Harvard เล่าว่า ความชำนาญเฉพาะด้านแบบเก่าๆ อาจไม่ตอบโจทย์การทำงานในยุคปัจจุบัน โดยค่านิยมใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน คือ ความรู้ในด้านอื่นๆ ทั่วๆ ไปแบบองค์รวม นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยมีคำกล่าวหนึ่งที่บอกข้อดีของความรู้ทั่วๆ ไปแบบองค์รวม ที่มีความสำคัญไม่แพ้ความรู้เฉพาะด้าน นั่นคือ “To a man with a hammer, everything looks like nails” หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า ถ้ามีค้อนทุกๆ อย่างก็เหมือนการตอกตะปู ไม่ว่าจะเป็นน็อต สกรูหรือตะปู ค้อนก็สามารถตอกลงไปได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องใช้ไขควง ไม่ต้องรู้ด้วยว่าต้องใช้ไขควงชนิดไหน มีกี่แฉก แต่การมีความรู้เฉพาะทางจะช่วยให้เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นอยากลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ความรู้แบบองค์รวมสำคัญกว่าความชำนาญเฉพาะด้าน
การที่จะรู้เรื่องต่างๆ ในแบบองค์รวมนั้น จำเป็นที่จะต้องมองในภาพกว้างๆ มากกว่าการเจาะลึกลงไปในเรื่องๆ เดียว เช่น หากคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคุณก็ควรอ่านหนังสือเกี่ยวกับการตลาดด้วยเช่นกัน แทนที่จะอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเงินเพียงอย่างเดียว เพราะความเข้าใจที่กว้างขึ้น หรือการรู้ข้อมูลแบบองค์รวมจะช่วยสร้างความเข้าใจที่ดีกว่าได้
รวมถึงการสร้างความเข้าใจในพื้นฐานของเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจผลกระทบที่ทั้งสองด้านอาจส่งผลกันได้เช่นกัน ซึ่งคนที่มีความเข้าใจแบบองค์รวมเหมือนจะมีเครื่องมือที่จะช่วยวาดแผนผัง และภาพรวมของการทำงาน ที่จะช่วยให้คนที่มีความเข้าใจแบบองค์รวมวางแผนที่จะตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ดีขึ้น
โอกาสของคนที่เข้าใจความรู้แบบองค์รวม
ในปัจจุบันมีบริษัทหรือองค์กรหลายๆ แห่ง เริ่มให้ความสนใจกับบุคคลที่มีความรู้แบบองค์รวมและประสบการณ์หลายๆ ด้าน เช่น Google ที่เริ่มไม่ได้รับพนักงานมาเพื่อทำงานในตำแหน่งเดียว แต่ให้พนักงานสลับหน้าที่การทำงานไปเรื่อยๆ เพื่อเรียนรู้งานที่หลากหลาย ซึ่ง Lisa Stern Hayes ผู้ที่ทำหน้าที่คัดเลือกพนักงานเข้ามาทำงานใน Google เล่าว่า เขาเลือกพนักงานที่มีความรู้ทั่วๆ ไปหลายๆ ด้านมากกว่าจะเลือกพนักงานที่มีความรู้เฉพาะในด้านเดียว
นอกจากนี้ Hayes ยังเล่าว่าถ้าบริษัทจ้างงานคนในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งโดยเฉพาะ หากวันหนึ่งบริษัทเกิดความเปลี่ยนแปลง พนักงานเก่าๆ ก็จะไม่สามารถทำงานใหม่ๆ ที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงได้เลย ทำให้ในท้ายที่สุดบริษัทก็ต้องจ้างงานคนที่มีความรู้แบบองค์รวม มีความสามารถหลายๆ ด้านอยู่ดี
ดังนั้นคนที่ทำหน้าที่คัดเลือกคนเข้ามาทำงานในบริษัท ควรเลือกคนที่มีความสามารถในการทำงานที่หลากหลาย มีความรู้แบบองค์รวมในหลายๆ ด้าน รวมถึงเลือกคนที่มีทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ ก็จะเป็นผลดีกับบริษัทมากกว่า เพราะทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ จะช่วยต่อยอดและพัฒนาทักษะอื่นๆ ได้
ที่มา – cncb
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา