ก่อนหน้านี้ Gap ประสบปัญหาทางธุรกิจมาต่อเนื่อง ผ่านการปรับตัวในโลกค้าปลีกไม่ทัน และมาเจอ COVID-19 ทำให้ขายสินค้าได้ลำบาก แต่ล่าสุด Gap ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ระบุว่า ภาพรวมยอดขายเริ่มดีขึ้น
หน้าร้านเดียวกันเติบโต 13%
Gap แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ของปี 2563 ว่า บริษัทมีรายได้สุทธิ 3,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียกวันของปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 62 ล้านดอลลาร์ แต่ทั้งสองตัวเลขนั้นทำได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ที่สำคัญ Gap ยังได้ผลประโยชน์จากการระบาดของ COVID-19 ด้วย
เนื่องจากการวิกฤตนี้ทำให้ผู้บริโภคต้องทำงาน หรือเรียนหนังสือที่บ้าน พวกเขาจึงต้องการเสื้อผ้าประเภทต่างๆ ที่สวมใส่สบาย และราคาประหยัด ยอดขายแบรนด์ Old Navy หนึ่งในแบรนด์ย่อยของ Gap ที่ทำตลาดเสื้อผ้าราคาประหยัดจึงเติบโต รวมถึง Athleta แบรนด์ผ้าเสื้อกีฬาก็เติบโตเช่นเดียวกัน
หากเจาะไปที่ตัวเลขเติบโตจะพบว่า ยอดขายหน้าร้านเดียวกันของกลุ่ม Gap เติบโต 13% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้การจำหน่ายผ่านออนไลน์ยังเติบโตสองเท่า โดยมีลูกค้าใหม่เข้ามาซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้ถึง 3.5 ล้านราย
Sonia Syngal ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Gap แจ้งว่า บริษัทชนะในตลาดพรีเมียมด้วย Athleta ส่วนตลาดสินค้าราคาถูกชนะด้วยแบรนด์ Old Navy แต่บริษัทยังต้องเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กร ผ่านการปิดหน้าร้าน 225 สาขาที่ไม่ทำกำไรทั่วโลก เพื่อควบคุมต้นทุน และกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง
สรุป
ธุรกิจค้าปลีกช่วงนี้เหนื่อยหนัก แต่หากแบรนด์ใดปรับตัวไปสู่ออนไลน์ และผลิตสินค้าออกมาได้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในเวลานี้ได้ดีที่สุด ย่อมเป็นผู้ชนะในตลาด และ Gap คืออีกตัวอย่างที่ดีของค้าปลีกที่ปรับตัวได้ ซึ่งส่วนตัวมองว่าหากเป็นอย่างนี้ไปอีกระยะหนึ่ง Gap น่าจะพลิกธุรกิจกลับมาเติบโตอีกครั้งได้
อ้างอิง // Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา