CEO ใหม่ของ Ford ยกเครื่ององค์กรให้กลับมาทำกำไรได้เร็วที่สุด

แม้จะเข้ามารับตำแหน่งเดือนส.ค. แต่ด้วยแรงกดดันจากนักวิเคราะห์ และนักลงทุน ทำให้ Jim Farley ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนล่าสุดของ Ford ต้องออกมายืนยันด้วยตัวเองว่าจะปรับโครงสร้างองค์กรให้ทำกำไรได้เร็วที่สุด

Ford F-150
Ford F-150

ตั้ง CFO ใหม่เพื่อมาดูแลเรื่องนี้

การเข้ามารับตำแหน่งนี้ของ Jim Farley ถือเป็นการรับเผือกร้อนจากประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนก่อน เพราะเขาสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และเจรจาเรื่องพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจให้ Ford ได้เป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถทำให้องค์กรกลับมามีกำไรเป็นกอบเป็นกำเหมือนในอดีตได้

เมื่อเป็นอย่างนี้ Jim Farley จึงตัดสินใจปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศปลดพนักงานอีก 1,400 คนในปีนี้ พร้อมลดต้นทุนในการทำตลาดทั่วโลก ซึ่งการประกาศดังกล่าวตามหลังการปลดพนักงาน 7,000 คนเมื่อปีก่อน และการปรับโครงสร้างการทำตลาดในยุโรป, จีน และอเมริกาใต้

ford
Jim Farley ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของ Ford

มากกว่านั้นเพื่อการแสดงให้เห็นถึงความจริงจังเกี่ยวกับการเงิน Jim Farley ได้ตั้งประธานเจ้าหน้าที่การเงินคนใหม่ โดยเป้าหมายของบริษัทคือปรับโครงสร้างองค์กรมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2565 แต่ปัจจุบันทำได้เพียง 3,900 ล้านดอลลาร์ หรือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย

คงเป้าระยะยาวเช่นเดิม แต่ปีนี้คงขาดทุน

ทั้งนี้ Ford ในยุคของ Jim Farley มีการตั้งเป้าหมายว่า บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงาน 8% เช่นเดิม แต่ด้วยการระบาดของโรค COVID-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ทำให้เป้าหมายนี้ยังไม่ชัดเจนในเรื่องระยะเวลา เพราะปีนี้ Ford คาดการณ์ว่าจะขาดทุนขาดทุนจากการดำเนินงาน หลังครึ่งแรกของปีนี้ยังขาดทุนจากการจำหน่ายรถยนต์ได้ยาก

ford
กลุ่มรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของ Ford

ในทางกลับกัน Ford เตรียมเดินหน้ากลยุทธ์ทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีกำไร และมีโอกาสเติบโตสูง เพื่อเดินหน้าสร้างกำไรจากการดำเนินงานให้เพิ่มขึ้น เช่นการเร่งทำตลาดรถกระบะ F-Series รวมถึงรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ส่วนในมุมตลาดโลกจะเร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีรถนต์ไร้คนขับเช่นกัน

รู้จักประธานเจ้าหน้าที่การเงินคนใหม่

John Lawler คือผู้เข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่การเงินคนใหม่ของ Ford ก่อนหน้านี้เขาเป็นหัวหน้า Ford Autonomous Vehicle และผู้อำนวยการด้านพาร์ทเนอร์ นอกจากนี้ยังเคยเป็นประธาน Ford China มาเกือบ 4 ปี ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในมุมของตำแหน่งที่น่าสนใจ

สรุป

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ Ford จะกลับมาทำกำไรในยุคนี้ เพราะการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ยังสูงเหมือนเดิม แต่เพิ่มเรื่องความต้องการรถยนต์ของผู้บริโภคที่ลดลงในช่วงการระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะจบลงเมื่อไร และ Ford เองก็คงต้องรีดไขมันออกจากองค์กรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้

อ้างอิง // Yahoo Finance

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา