ครั้งแรกในประเทศไทย กับ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) ชูจุดขาย German Single Malt เขย่าตลาดเบียร์พรีเมี่ยม ครั้งล่าสุด

ตลาดเบียร์พรีเมี่ยมในประเทศไทยกำลังคึกคักขึ้นเรื่อยๆ กระแสของผลิตภัณฑ์ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่เน้นเรื่องคุณภาพ และบุคลิกที่สะท้อนตัวตนกลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ แต่ในตลาดเบียร์ระดับพรีเมี่ยมมีแบรนด์ให้เลือกน้อย ยิ่งพฤติกรรมผู้บริโภคไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง แต่มองหาทางเลือกที่แตกต่าง สามารถสร้างสีสันให้ชีวิตได้มากขึ้น นี่คือโอกาสของ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) ที่เข้ามาให้นักดื่มได้ลอง

เฟเดอร์บรอย (Federbräu) เห็นถึงศักยภาพความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีต่อสินค้ากลุ่มพรีเมี่ยม ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเติบโตอย่างเห็นได้ชัด จึงนำเสนอ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) โฉมใหม่ เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค ในประเทศไทยเพิ่งมีการเปิดตัว เฟเดอร์บรอย (Federbräu) โฉมใหม่ ซึ่งมั่นใจว่าจะเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

เมื่อมีหลากหลายแบรนด์ แล้วทำไมต้อง เฟเดอร์บรอย (Federbräu)

หลายคนอาจมีคำถามว่า เฟเดอร์บรอย (Federbräu) โฉมใหม่ จะเข้ามาครองใจผู้บริโภคได้อย่างไร ในเมื่อในตลาดเบียร์ พรีเมี่ยมก็มีแบรนด์ต่างๆ อยู่ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) มีอะไรที่แตกต่าง ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเบียร์พรีเมี่ยมอย่าง เฟเดอร์บรอย (Federbräu) ให้มากขึ้น

Federbräu หรือ เฟเดอร์บรอย เป็นภาษาเยอรมัน Feder ที่แปลว่า ขนนก (Feather) และคำว่า Bräu ที่แปลว่า การหมักการกลั่น (Brew) ที่สื่อถึงความพิถีพิถันในการถ่ายทอดรสชาติของเบียร์ โดยมีจุดเด่นของวัตถุดิบที่เป็น German Single Malt เป็นเบียร์แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในประเทศไทย ที่ใช้มอลต์คุณภาพจากแหล่งผลิตเพียงแหล่งเดียวจากประเทศเยอรมนี นี่คือสิ่งที่เบียร์แบรนด์อื่นๆ ไม่มี

มร.เอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน CEO Beer Product Group ของ เฟเดอร์บรอย (Federbräu)

ด้วย German Single Malt ทำให้ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) มีรสและกลิ่นหอมซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของมอลต์จากเยอรมัน และด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะและปรัชญาสไตล์ Bauhaus (เบาเฮาส์) ของเยอรมัน เน้นความคลาสสิค เรียบง่ายแต่โดดเด่นและทรงคุณค่า โดยมีบรรจุภัณฑ์หลัก 3 ขนาด

บรรจุภัณฑ์แบบขวดพัฒนาด้วยเทคโนโลยี Pressure Sensitive Label ที่มีคุณภาพสูง มี 2 ขนาด ขวดใหญ่ขนาด 620 มล. ขวดเล็กขนาด 320 มล. และบรรจุภัณฑ์กระป๋องแบบ Sleek Can ดูทันสมัยขนาด 320 มล. รวมถึงบรรจุภัณฑ์รอง แบบลังบรรจุ 12 ขวดเล็กและใหญ่ และ ถาดบรรจุ 12 กระป๋อง Sleek Can หาซื้อได้แล้วที่ห้างโมเดิร์นเทรด เช่น เทสโกโลตัส, บิ๊กซี และเร็วๆ นี้จะวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-ELEVEN รวมถึงในร้านสไตล์นั่งดื่มต่างๆ

ความแตกต่าง สร้างบุคลิกใหม่ สะท้อนความเป็น Federbräu

มร.เอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน CEO Beer Product Group ของ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) เปิดเผยว่า จากการสำรวจของ AC Nielsen บริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลก จะเห็นได้ว่า แนวโน้มของผู้บริโภคเลือกอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น โดยเฉพาะในไทยที่ตลาดเติบโตกว่า 24% ดังนั้นแบรนด์ต้องมีการปรับตาม ทั้งรสชาติ รูปแบบ และบุคลิก

จากความแตกต่างด้านคุณภาพวัตถุดิบ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ทำให้แบรนด์ เฟเดอร์บรอย (Federbräu)  สะท้อนบุคลิกที่ชัดเจนของชายหนุ่ม ที่ใช้ชีวิตในเมือง เป็นคนทันสมัย มีรสนิยม และเป็นที่สนใจของคนรอบข้าง และนี่คือคนที่จะก้าวนำคนอื่นอยู่เสมอ

การนำ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) เข้าสู่ตลาดเบียร์พรีเมียม เห็นชัดว่ามีศักยภาพที่จะเติบโตได้ ยิ่งเมื่อผสมผสานกับความมุ่งมั่นของแบรนด์ตามสไตล์เยอรมัน ตามคำกล่าว “Simply German, Passion für Perfektion” คือการนำ Passion ทุ่มเททำสิ่งที่ตนรักและเชื่อมั่น สร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นอย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด

เกร็ดทิ้งท้าย กับเคล็ดลับการรินเบียร์ เฟเดอร์บรอย (Federbräu)

45 องศา คือ การออกแบบกราฟฟิกต่างๆ ของ Federbräu ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะและงานออกแบบสไตล์ Bauhaus อันมีชื่อเสียงของเยอรมันในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และยังเป็นมุมเอียงที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการรินเบียร์  เฟเดอร์บรอย (Federbräu) มีวิธีการง่ายๆ ดังนี้

  1. แช่เบียร์ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) ด้วยอุณหภูมิ 4-8 องศาเซลเซียส
  2. เตรียมแก้วเบียร์ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) ที่แช่เย็นไว้แล้ว
  3. ถือแก้วเอียงทำมุม 45 องศา
  4. ริน เฟเดอร์บรอย (Federbräu) ประมาณ 3/4 ของแก้ว จากนั้นตั้งแก้วปกติ รินจนเต็ม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา