ชี้แจงกรณีนโยบายใหม่ของ Facebook ไม่ได้กระทบแค่ “เนื้อหาที่มีแบรนด์” เพราะเพจก็โดนด้วย

Facebook
Photo: Shutterstock

ก่อนอื่น Brand Inside ขออภัยผู้อ่าน หากสื่อสารผิดพลาดในบทความก่อนหน้าที่นำเสนอเรื่องนโยบายเนื้อหาที่มีแบรนด์ของ Facebook แต่ขอยืนยันว่า เนื้อหาเรื่องนโยบายที่นำเสนอเป็นความจริง และเป็นเรื่องใหม่สำหรับการทำเนื้อหาที่มีแบรนด์หรือ Branded Content

ชี้แจงชัดๆ อีกครั้ง นโยบายใหม่คืออะไรกันแน่?

Brand Inside ขอย้ำชัดๆ ตรงนี้เพื่อความเข้าใจร่วมกันก่อนว่า คนทำเพจปกติหรือผู้ใช้งาน Facebook ทั่วไปที่ไม่ได้รับเงินให้โพสต์ ไม่ต้องกังวลกับนโยบายใหม่ เพราะ Facebook ไม่ได้ห้ามให้แชร์เนื้อหาใดๆ พูดอีกอย่างคือ เพจและผู้ใช้งานทุกคนยังสามารถใช้งาน Facebook เพื่อแชร์เนื้อหาต่างๆ ได้ตามเดิม

ส่วนตัวนโยบายใหม่ของ Facebook ที่ระบุโดยตรงถึงเนื้อหาที่มีแบรนด์หรือ Branded Content นั้น โดยเฉพาะในข้อที่ 6 ที่ระบุว่า “อย่ายอมรับสิ่งที่มีค่าใด ๆ เพื่อโพสต์เนื้อหาที่คุณไม่ได้สร้างหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้าง หรือไม่ได้มีคุณอยู่ด้วย” แปลความหมายได้ว่า ถ้าคุณเป็นเพจที่ใช้ Branded Content เป็นเครื่องมือในการจัดการโพสต์ จะทำงานลำบากขึ้น เพราะต่อไปหากไม่ได้มีส่วนร่วมในการผลิตงานชิ้นนั้นขึ้นมา การรับจ้างโพสต์จะผิดกฎ จนถึงขั้นถูกสั่งปิดจาก Facebook ได้เลย ส่วนกฎเกณฑ์และข้อจำกัดใหม่ในการใช้งาน Branded Content อ่านเพิ่มเติมได้ที่ อัพเดทนโยบายเนื้อหาที่มีแบรนด์ของ Facebook โดยตรง

แล้วคนทำเพจ ยังมีอะไรให้กังวลหรือไม่? กับนโยบายใหม่ของ Facebook

คำตอบคือ มี เพราะนโยบายใหม่ที่ประกาศเมื่อเดือนมกราคม ไม่ได้มีเพียงเรื่องของ Branded Content หรือเนื้อหาที่มีแบรนด์เท่านั้น แต่ Facebook ยังส่งสารถึงคนทำเพจทั้งหลายด้วยว่า “อย่ายอมรับการจ้างใดๆ ที่กำหนดเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมให้กับเว็บที่มีปริมาณโฆษณามากกว่าเนื้อหา หรือโฆษณาที่ก่อให้เกิดประสบการณ์ในแง่ลบเช่นโฆษณาที่มีเนื้อหาทางเพศ น่าตกใจ หรือสนับสนุนการหลอกลวงใดๆ”

ย้ำอีกครั้ง ข้อความด้านบนไม่ใช่นโยบายที่มีผลต่อเนื้อหาที่มีแบรนด์หรือ Branded Content แต่คือสารที่ Facebook ส่งถึงเพจปกติทั่วไป โดยได้ประกาศไว้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ความคิดเห็นของ Brand Inside : ย้ำก่อนว่า ข้อมูลส่วนนี้คือการตีความ นโยบายใหม่ที่ส่งตรงถึงเพจ การเตือนของ Facebook ที่ระบุว่า ห้ามเพจรับเงินโพสต์ในกรณีที่โฆษณานั้นมีเนื้อหาทางเพศ น่าตกใจ หรือสนับสนุนการหลอกลวงใดๆ ส่วนนี้เข้าใจได้ แต่ส่วนที่บอกว่า “อย่ายอมรับการจ้างใดๆ ที่กำหนดเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมให้กับเว็บที่มีปริมาณโฆษณามากกว่าเนื้อหา” ส่วนนี้หมายความว่าอย่างไร ที่สำคัญคือเพจจะรู้ได้อย่างไรว่าเว็บที่จ้างเพจให้โพสต์นั้นมีปริมาณโฆษณาหรือเนื้อหามากกว่ากัน

  • คำถามคือนโยบายใหม่ของ Facebook นี้ จะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการวัด และถ้าเพจรับจ้างโพสต์ไปโดยที่ไม่ทราบแน่ชัดว่า เว็บที่จ้างมีปริมาณโฆษณามากกว่าเนื้อหาหรือไม่ ในกรณีนี้ Facebook จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร

เหตุผลของ Facebook ที่ต้องส่งนโยบายใหม่

Facebook ให้เหตุผลไว้ว่า การส่งนโยบายใหม่ทั้งเนื้อหาที่มีแบรนด์และนโยบายเพจ เป็นเพราะต้องการ “…พัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ Facebook ซึ่งติดตามและมีส่วนร่วมกับเนื้อหาแบบออร์แกนิกตามเพจให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการไม่สนับสนุนให้เจ้าของเพจรับการสปอนเซอร์ (หรือการแลกเปลี่ยนใด ๆ ที่มีค่าเช่น ผลิตภัณฑ์ฟรี หรือข้อตกลงการแชร์เพื่อยอดแชร์) เพื่อโปรโมทแอพหรือเว็บใดเว็บหนึ่ง (ดูด้านบน) นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะสร้างประสบการณ์ที่มีคุณภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกับการอัพเดทรอบก่อน ๆ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการคลิกลิงก์คุณภาพต่ำและลดจำนวนพาดหัวคลิกเบท

จากนี้รออัพเดทข้อมูลคำตอบจาก Facebook อีกครั้ง

ความคืบหน้าล่าสุด Brand Inside ได้ติดต่อสอบถามไปยัง Facebook ประเทศไทยถึงเรื่องราวทั้งหมดนี้แล้ว และยังอยู่ในระหว่างการรอคำตอบ เพราะต้องส่งเรื่องไปสอบถามยัง Headquarter หรือสำนักงานใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ก่อน

อย่างไรก็ตาม หาก Brand Inside ได้รับข้อมูลทั้งหมดแล้ว จะรีบรายงานให้ผู้อ่านทุกท่านทราบอีกครั้งโดยด่วน

อ้างอิง – Facebook

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา