มติยอมรับกฎหมายใหม่: บริษัทไอทีต้องลบเนื้อหาที่ผิดลิขสิทธิ์ทันที ก่อนที่จะมีใครมาแจ้ง
รัฐสภายุโรปอนุมัติยอมรับกฎหมายลิขสิทธิ์ใหม่ โดยกำกับให้บริษัทไอทีแพลตฟอร์มทั้งหลายต้องทำการเซ็นสัญญาลิขสิทธิ์กับศิลปิน/นักดนตรี นักเขียน และสำนักข่าว ก่อนที่จะมีการนำเอาผลงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง หนังสือ หรือข่าวมาโพสต์บนแพลตฟอร์ม
นอกจากนั้น ในกรณีที่พบว่ามีการโพสต์ผลงานที่ผิดลิขสิทธิ์จากผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม กฎหมายใหม่ระบุว่าบริษัทไอทีจะต้องทำการลบผลงานชิ้นนั้นออกจากแพลตฟอร์มโดยทันที ชนิดที่ไม่ต้องรอให้ใครมาแจ้งแล้วค่อยลบ เหมือนที่กระทำอยู่ในปัจจุบัน
พูดง่ายๆ คือ กฎหมายใหม่นี้จะเข้มงวดกับลิขสิทธิ์เนื้อหาบนแพลตฟอร์มต่างๆ มากขึ้น และเรียกร้องให้บริษัทไอทีต้องมีท่าที active ต่อการกำกับเนื้อหาที่ผิดลิขสิทธิ์บนแพลตฟอร์ม
- ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น Google ที่มี Google News ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมข่าวจากสำนักต่างๆ (คล้ายๆ กับ LINE TODAY บ้านเรา) โดยกฎหมายใหม่ของรัฐสภายุโรปจะกำกับให้ Google ต้องทำการขอใบอนุญาตจากสำนักข่าวหรือผู้ผลิตเนื้อหาก่อนที่จะนำมาเผยแพร่
The New York Times รายงานว่า กฎหมายทำนองนี้เคยออกมาก่อนแล้วในประเทศสเปน โดยหลังจากนั้นได้ทำให้ Google ถอด Google News ออกจากการให้บริการในประเทศสเปนไปแล้ว
กลุ่มผู้สนับสนุนการออกกฎหมายในครั้งนี้ บอกว่า กฎหมายนี้เป็นการบังคับให้บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ต้องจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ของผลงานต่างๆ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ (creative industries) ในยุโรป
เป็นที่ทราบกันว่า การเติบโตของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ถูกตั้งคำถามมาตลอดถึงอิทธิพลที่มากเกินไปจนทำให้เกิดการผูกขาดตลาด อย่างเช่น Google และ Facebook ได้ผูกขาดตลาดโฆษณาไปเกินกว่าครึ่งในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นการออกกฎหมายในครั้งนี้จึงมองได้ว่าเป็นการลดอิทธิพลของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่นั่นเอง
กฎหมายนี้ก็มีเสียงค้าน
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์หลายแห่งในยุโรป เช่น Wikipedia, Twitch, PornHub และ Reddit ได้ประท้วงกฎหมายด้านลิขสิทธิ์ใหม่ของสหภาพยุโรป โดยมองว่ากฎหมายรนี้กว้างเกินไป และมีข้อที่น่ากังวลคือ Article 11 และ Article 13 ซึ่งอาจจะคุกคามเสรีภาพในการแสดงออกบนโลกออนไลนได้ อ่านเนื้อหาส่วนนี้เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์หลายแห่งขึ้นหน้าประท้วงกฎหมายลิขสิทธิ์ใหม่ของยุโรป
หรือแม้แต่ตัวของ Google เองก็มองว่า กฎหมายนี้อาจไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริง เนื่องจากเนื้อหาบนออนไลน์อันมหาศาล จะทำให้เกิดการกรองเนื้อหาที่ไม่สมบูรณ์ และจะนำไปสู่การไม่สามารถแชร์เนื้อหาบนโลกออนไลน์ได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากฎหมายนี้จะผ่านการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐสภายุโรปแล้ว แต่หลายๆ ประเทศในยุโรปยังมีเวลาอีก 2 ปีในการพิจารณาเพื่อนำไปใช้
ที่มา – The New York Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา