ฟองสบู่ร้านสะดวกซัก! Washcoin ชิงปิดกิจการ ความเสียหายหลักร้อยล้าน แฟรนไชส์ 80 สาขาไร้คนดูแล

ร้านสะดวกซักป่วนรับต้นปี Washcoin ประกาศปิดกิจการกระทันหัน สร้างความเสียหายหลักร้อยล้านบาทให้ผู้ทำแฟรนไชส์ทันที อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของฟองสบู่ร้านสะดวกซัก ด้านรายใหญ่ Otteri มองตลาดยังไปอีกไกล

washcoin

Washcoin ชิงปิดกิจการกระทันหัน

บริษัท โมบาย ทู แมชชีน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ Washcoin ร้านสะดวกซัก ได้แจ้งผู้ทำธุรกิจแฟรนไชส์เกือบ 100 ราย ว่า บริษัทจะหยุดดำเนินกิจการ และให้บริการระบบ Washcoin เริ่มที่บริการซ่อมบำรุง และแก้ไขปัญหาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ต่อด้วย Online Customer Service ในวันที่ 6 ม.ค. 2565

และภายในวันที่ 20 ม.ค. 2565 แอปพลิเคชัน Washcoin ที่ให้ลูกค้าเติมเงินเข้าระบบเพื่อชำระ และสั่งการเครื่องซักผ้าให้ทำงาน จะหยุดให้บริการ นอกจากนี้สัญญาแฟรนไชส์ที่ทำกับพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ จะยุดิภายในวันที่ 20 ม.ค. 2565 เช่นกัน ก่อนในวันที่ 25 ม.ค. 2565 ทุกระบบจะหยุดให้บริการถาวร

ทั้งหมดนี้ ไม่มีการแจ้งลูกค้า และผู้ร่วมทำธุรกิจแฟรนไชส์ล่วงหน้า โดย Washcoin อ้างตามเอกสาร ว่า เพราะวิกฤต COVID-19 ทำให้การดำเนินธุรกิจทำได้ยากลำบาก ประกอบกับการถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร และนักลงทุนติดเงื่อนไขบางประการ ทำให้กิจการไม่มีเงินมาหมุนเวียน และดำเนินการต่อไม่ได้

เสียหายรวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท

แหล่งข่าวหนึ่งในผู้ทำธุรกิจแฟรนไชส์ Washcoin กล่าวกับ Brand Inside ว่า การกระทำของ Washcoin ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้ผู้ประกอบการแฟรนไชส์เกือบ 100 ราย ได้รับความเสียหายมูลค่าหลักร้อยล้านบาท โดยบางรายพึ่งเซ็นสัญญาแฟรนไชส์เมื่อต้นเดือน ธ.ค. 2564 และเสียเงินลงทุน 8 แสนบาททันที

“ปกติ Washcoin จะจ่ายเงินรายได้ให้เราทุกสัปดาห์ แต่ช่วงก่อนปีใหม่อยู่ ๆ มีข้อความแจ้งกับแฟรนไชส์ว่า ขอจ่ายช้าเนื่องจากระบบบัญชีมีปัญหา ตอนนั้นผมเริ่มเอะใจว่าเอาเงินไปหมุนหรือไม่ แต่พอช่วงเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. อยู่ ๆ มีจดหมายฉบับนี้ส่งมาในกลุ่มไลน์แฟรนไชส์ และทุกคนก็รู้ว่าแย่แล้ว”

ทั้งนี้สัญญาณการปิดกิจการของ Washcoin เริ่มมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ที่บริษัทเริ่มส่งช่างมาซ่อมบำรุงเครื่องช้า ไม่มีอะไหล่มาเปลี่ยน บางครั้งต้องรอการซ่อมกว่า 1 เดือน รวมถึงระบบหลังบ้านที่ให้บริการช้า จนหลายครั้งไม่สามารถแก้ปัญหาลูกค้าที่มีปัญหาการใช้งาน

washcoin
รายได้รวม และกำไรสุทธิของ Washcoin

เสื่อมเสียทั้งตลาดบริการสะดวกซัก

ขณะเดียวกันสำนักงานของ Washcoin ยังปิดมาระยะหนึ่งแล้ว และค้างค่าเช่ากับทางตึก แสดงให้เห็นถึงการเตรียมตัวปิดกิจการเป็นอย่างดี นอกจากนี้ทาง Washcoin ยังจำหน่ายคูปองส่วนลดให้กับลูกค้าทั่วไป สะท้อนถึงความต้องการนำเงินไปหมุนก่อนปิดกิจการเช่นกัน

“2 ปีก่อน ธุรกิจร้านสะดวกซักเริ่มเป็นกระแส เพราะเป็นเสือนอนกิน และเป็นเรื่องใหม่ในตลาด ผมเลยอยากเข้าไปลงทุน ซึ่งตอนนั้นมีหลากหลายแบรนด์ แต่ผมเลือก Washcoin เนื่องจากเป็นรายแรก ๆ ที่ใช้การชำระแบบออนไลน์ และระบบซักเป็นไฟฟ้า แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมันก็คล้าย ๆ ว่า ร้านสะดวกซักกำลังเกิดฟองสบู่”

แหล่งข่าว ย้ำว่า เหตุการณ์นี้จะสร้างความเสื่อมเสียให้ธุรกิจร้านสะดวกซัก เพราะความเชื่อมั่นของลูกค้าจะลดลง ไม่มีความมั่นใจในการเติมเงินเก็บไว้ในแอปพลิเคชัน รวมถึงฝั่งนักลงทุนแฟรนไชส์ที่เริ่มไม่มั่นใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกหรือไม่ จนไม่อยากลงทุนในธุรกิจนี้อีกต่อไป

ฝั่งเจ้าของเร่งเจรจาแบรนดอื่นมาอุ้มธุรกิจ

ในทางกลับกัน ฝั่งเจ้าของกิจการ Washcoin มงคล เกริกพิพัฒน์สกุล มีการแจ้งกับผู้ร่วมทำธุรกิจแฟรนไชส์ ว่า ทางบริษัทได้รับความช่วยเหลือจากแบรนด์ร้านสะดวกซักรายอื่นเข้ามาอุ้มกิจการ แต่เจ้าของแฟรนไชส์ต้องเซ็นสัญญาฉบับใหม่ และให้เวลาตัดสินใจเพียง 1 วัน

“เขาให้เวลาเราแค่ 1 วัน ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะมัดมือชกหรือเปล่า เพราะมันเร็วมาก ซึ่งผมก็ไม่ได้เซ็น แต่ที่แน่ ๆ พวกเรารวมกลุ่มแฟรนไชส์ที่ได้รับความเสียหายเพื่อฟ้องร้องทางกฎหมาย เพราะบางคนลงทุนไป 4-5 สาขา จะให้สูญไปเลยก็คงไม่ได้” แหล่งข่าว กล่าว

เบื้องต้นแฟรนไชส์หลายรายเริ่มเปลี่ยนระบบจากของ Washcoin เป็นระบบซักหยอดเหรียญ เพื่อดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพราะหากไม่ปรับ ตัวตู้จะให้บริการไม่ได้ และต้องถูกตั้งทิ้งค้างไว้เช่นนั้น ส่วนบางรายเลือกรอดำเนินการฟ้องร้องให้เสร็จสิ้นก่อนจะไปทำอะไรกับตู้ซักผ้า

otteri

Otteri มองตลาดนี้ไปถึง 10,000 สาขา

กวิน นิทัศนจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค-เน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของร้านสะดวกซัก Otteri เสริมว่า ภาพรวมตลาดร้านสะดวกซักทั้งประเทศไทยปี 2565 จะอยู่ราว 2,000 แห่ง และยังมีโอกาสเติบโตเป็นกว่า 10,000 สาขาภายใน 7-8 ปีข้างหน้า

“ผมว่าเรื่องนี้ไม่ทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนธุรกิจร้านสะดวกซักของแฟรนไชส์ และตลาดนี้ยังเติบโตได้ แม้ COVID-19 ระบาด ก็กระทบแค่กลุ่มสาขาใกล้มหาวิทยาลัย ยิ่งการซักผ้าด้วยน้ำร้อน และอบด้วยความร้อนจะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ ก็ทำให้ลูกค้ายังตัดสินใจเข้ามาใช้บริการอยู่”

ทั้งนี้ธุรกิจร้านสะดวกซักไม่ได้ถูกปิดจากมาตรการสาธารณสุข ทำให้ยังให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ส่วน Otteri ปัจจุบันมี 600 สาขาทั่วประเทศไทย และปีนี้จะเพิ่มอีก 380-400 สาขา ผ่านการใช้รูปแบบแฟรนไชส์ และจูงใจด้วยโอกาสธุรกิจที่ยังมี

อ้างอิง // Washcoin

อ่านข่าวเกี่ยวกับร้านสะดวกซักเพิ่มเติมได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา