อวสานร้าน A&W เจ้าของสิทธิ์ในประเทศไทยเตรียมหยุดกิจการ เหตุโควิด-19 ทำขาดทุนต่อเนื่อง

ถึงจะมี วาฟเฟิล เป็นเมนูเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากร้านฟาสต์ฟู้ตคู่แข่ง แถมช่วง 1-2 ปียังอัดโปรโมชันต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นลูกค้าช่วงโรคโควิด-19 ระบาด แต่สุดท้าย A&W ในไทยก็เตรียมยุติกิจการ เพราะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

 

A&W

A&W สู้ไม่ไหวในตลาดไทย

รายงานข่าวแจ้งว่า บมจ. โกลบอล คอนซูเมอร์ เจ้าของสิทธิ์ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร A&W ในประเทศไทย เตรียมยุติการดำเนินกิจการ A&W เนื่องจากประสบภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่โรค โควิด-19 ระบาดในประเทศไทย ผ่านการที่ห้างสรรพสินค้าปิดให้บริการในบางช่วงเวลา ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ทั้งนี้ บมจ. โกลบอล คอนซูเมอร์ อยู่ระหว่างนำเสนอเรื่องขอยุติกิจการ A&W กับคณะกรรมการบริษัท โดยปัจจุบันร้าน A&W ทั้งหมด 26 สาขา ยังให้บริการตามปกติ และสามารถสั่งผ่านเดลิเวอรีได้ ส่วนธุรกิจ A&W ในประเทศไทยจะยุติกิจการ หรือมีผู้มาซื้อกิจการต่อยังต้องติดตามต่อไป

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการของ บมจ. โกลบอล คอนซูเมอร์ มีมติให้ยุติกิจการร้านอาหาร Kitchen Plus ที่เหลืออยู่ 2 สาขา ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2565 เพราะประสบภาวะขาดทุนเช่นกัน โดยแผนการยุติกิจการทั้งสองร้านอาหาร ทำให้บริษัทต้องตั้งสำรองมูลค่า 160 ล้านบาท ส่วนธุรกิจหลักของบริษัทคือ ผลิตบรรจุภัณฑ์ และอาหารแปรรูป

สำหรับผลประกอบการปี 2564 ของ บมจ. โกลบอล คอนซูเมอร์ มีรายได้รวม 1,862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปี 2563 โดยเป็นรายได้จากการขายอาหาร และเครื่องดื่ม (A&W และ Kitchen Plus) มีรายได้ 86 ล้านบาท ลดลง 27% แต่ร้าน A&W ขาดทุนในปี 2564 ถึง 70 ล้านบาท

A&W ก่อตั้งในปี 2468 ที่สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีอายุกว่า 100 ปี สินค้าแรกที่จำหน่ายคือ รูทเบียร์ ปัจจุบันมีสาขากว่า 1,000 แห่งทั่วโลก ส่วนในไทย A&W เปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวปี 2526 แม้จะมีเครื่องดื่มเอกลักษณ์เป็นตัวชูโรง แต่ในสมรภูมิฟาสต์ฟู้ด 30,000 ล้านบาท A&W กลับเป็นแบรนด์รองในตลาดนี้

สรุป

ตลาดฟาสต์ฟู้ดแข่งขันอย่างดุเดือด และแบรนด์ไหนที่ว่าแข็งในต่างประเทศ พอเข้ามาตลาดไทยก็รอดได้ยาก ดังนั้นต้องติดตามกันว่าจะมีฟาสต์ฟู้ดชื่อดังรายไหนโบกมือลาตลาดไปอีกบ้าง แต่ที่แน่ ๆ ถ้า A&W ออกจากตลาดนี้ไปจริง ๆ ส่วนตัวเชื่อว่าคงมีคนเสียดายร้านอาหารแบรนด์นี้ไม่น้อย

อ้างอิง // Glocon

อ่านข่าวเกี่ยวกับ A&W เพิ่มเติมได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา