Elon Musk ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ว่า เขาคิดว่าจีนน่าจะผลิตบริษัทที่แข็งแกร่งออกมาได้มากกว่านี้ โดยชี้ว่าวัฒนธรรมการทำงานหนักของจีนคือเหตุผลสำคัญ
“มีสุดยอดหัวกะทิที่ทุ่มเทให้กับงานหนักจำนวนมากในประเทศจีน” เขาระบุ “แรงงานในจีนไม่ใช่แค่พร้อมจะโหมงานถึงเที่ยงคืนเท่านั้น แต่ต่อให้เป็นตี 3 พวกเขาก็ทำได้ ไม่เหมือนคนอเมริกันที่มักจะหาทางหลีกเลี่ยงงาน”
เขาขึ้นชื่อเรื่องบูชางานหนัก
อย่างไรก็ตาม Elon Musk ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการทำงานหนักเหนือมิติอื่นๆ ในชีวิตมาแต่ไหนแต่ไร อย่างที่เคยมีข่าวออกมาว่าเขาทำงานหนักถึงขั้นกินนอนบนพื้นโรงงานในช่วงที่เริ่มผลิต Tesla Model 3
ในปี 2018 เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมต้องการให้สถานการณ์ของตัวเองแย่ที่สุดในบริษัท ถ้าพวกเขา (ทีม) รู้สึกเจ็บปวด ผมก็ต้องการให้ตัวเองเจ็บปวดยิ่งกว่า”
แน่นอนว่าแนวคิดในการทำงานของ Musk ย่อมสะท้อนอยู่ในวิถีการทำงานของบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของ อย่างเมื่อเดือนที่ผ่านมา Bloomberg อ้างอิงรายงานของแหล่งข่าวว่าโรงงาน Gigafactory ของ Tesla ในเซี่ยงไฮ้ถึงกับให้พนักงานนอนในโรงงานหลังจากรัฐบาลจีนประกาศล็อกดาวน์ 3 สัปดาห์ โดยให้ทำงานถึง 12 ชั่วโมงต่อกะ และมีวันหยุดสุดสัปดาห์แค่ 1 วัน
บูชางานหนัก ล้าหลังแล้วหรือยัง?
เอาเข้าจริงแนวคิดเรื่องอุทิศตัวเพื่องานถูกตั้งคำถามมาสักพักแล้ว แม้แต่ในประเทศจีนที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำงานแบบ 996 ก็ยังมีบริษัทที่เริ่มต่อต้าน หรือในญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องทำงานหนักจนตายก็มีสถิติชี้ว่าคนญี่ปุ่นทำงานน้อยลงส่วนภาครัฐเองก็ถึงกับผลักดันการทำงาน 4 วัน/สัปดาห์
สาเหตุสำคัญคือ ปัจจุบันคนตระหนักถึงมิติอื่นๆ นอกเหนือจากการทำงานมากขึ้น เช่น สุขภาพ ชีวิตครอบครัว งานอดิเรก เพราะงานไม่ใช่แค่สิ่งเดียวที่นิยามชีวิตของคนคนหนึ่ง
ที่สำคัญก็คือมีงานวิจัยหลายชิ้นบ่งบอกว่างานหนักกระทบสุขภาพจริงๆ อย่าง WHO เองก็เคยสำรวจและพบว่าในปีหนึ่ง มีคนเสียชีวิตจากงานหนักเกือบ 8 แสนคน จากภาวะเส้นเลือกในสมองแตกและโรคหัวใจ
ที่มา – Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา