คุยกับช่างท๊อป เจ้าของธุรกิจอาบน้ำหมา-แมว อาชีพแสนรักที่แลกมาด้วยความเจ็บปวด

วิกฤตโควิดระบาดที่จีนตั้งแต่ปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ผู้คนต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้น กิจกรรมที่ผู้คนมักทำในช่วงที่ต้องอยู่ลำพังหรือถูกล็อคดาวน์จนไม่สามารถไปไหนได้สะดวก ก็จะมีตั้งแต่ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร-ขนมทานเอง จนไปถึงการหาสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงเป็นของตัวเอง สัตว์เลี้ยงที่หาง่ายและคนส่วนใหญ่มักจะเลี้ยงก็หนีไม่พ้นหมา แมว ที่ก็มีทั้งสายพันธุ์ท้องถิ่นและต่างประเทศ มีทั้งสัตว์ที่ถูกทิ้งจากเจ้าของคนเดิม หรือเจ้าของคนเดิมเลี้ยงไม่ไหวจนต้องหาคนเลี้ยงต่อ ไปจนถึงการหาซื้อมาไว้ในครอบครองเอง

ธุรกิจอาบน้ำหมาแมวที่อาจถูกคาดการณ์ว่าน่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดมากนักก็ได้รับผลกระทบเหมือนกับธุรกิจรายอื่นๆ เช่นกัน วันนี้ Brand Inside พาไปคุยกับช่างท๊อป ภานุพงศ์ จงจิตร วัย 36 ปี เจ้าของเพจบ้านช่างท๊อป ด็อกอาร์ท ผู้ทำธุรกิจให้บริการอาบน้ำหมา-แมว ให้บริการตัดขน ตัดเล็บหมา-แมว เขาจะมาเล่าให้เราได้เรียนรู้ธุรกิจอีกแขนงหนึ่งว่า การดำเนินธุรกิจนี้ของเขาเริ่มต้นอย่างไร ทำธุรกิจอย่างไร ได้รับผลกระทบจากโควิดยังไงบ้าง

ก่อนที่เขาจะมาทำงานด้านนี้จริงจัง เริ่มมาจากช่วงปี 2547 เขาเรียนและทำงานร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารในห้าง เขารู้สึกว่าตัวเองทำงานด้านนี้ไม่ค่อยได้เพราะไม่ค่อยถนัดงานบริการอยู่กับคน จากนั้นก็หางานทั่วไปทำ ช่วงนั้นมีรับสมัครอาบน้ำหมาที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ตอนแรกเขาก็คิดว่าเป็นงานง่าย จึงไปสมัคร แม้จะคิดว่าน่าจะทำงานแบบนี้ไม่ได้เพราะมีกลิ่นอบอวล ทั้งกลิ่นฉี่ กลิ่นอึ แต่มีความชอบสัตว์เป็นทุนเดิม จึงตัดสินใจทำ แม้ช่วงแรกจะคิดว่าทำไม่ได้ ทำนานเข้าก็เริ่มชินและรู้สึกว่าหมาน่ารัก จึงชอบงานนี้ไปโดยปริยาย

หลังจากนั้นก็ทำงานอาบน้ำหมามาโดยตลอด จนคิดว่าจะไม่เปลี่ยนอาชีพแล้ว ตอนนั้นอายุ 18-19 ปี ผ่านไปสองปีก็เริ่มเรียนตัดขน จนได้เป็นช่าง ถือว่ารายได้ค่อนข้างดีกว่าการอาบน้ำหมาแมวค่อนข้างมาก ต่อมาก็เปิดร้านเป็นของตัวเองในช่วงวัย 20 ปีเศษ ตั้งแต่ปี 2550 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วงนั้นเป็นช่วงวัยรุ่นก็หมดเงินไปกับการกินเที่ยวมาตลอด ก่อนหน้านั้น เขาก็เที่ยวเยอะ กินเยอะ ติดเหล้า ติดบุหรี่ ไม่มีค่าใช้จ่ายเช่าร้านต่อ จึงปิดกิจการตอนปี 2559 เพราะร้านเจ๊ง 

ธุรกิจตัดขนหมา-แมวไม่ง่าย: เปิดร้านแรกเจ๊ง ก่อนกรุยทางสู่ร้านใหม่กับคลิปไวรัลยอดฮิต

หลังจากปิดร้านตัวเองในช่วงปี 2559 ก็สมัครงานอาบน้ำหมา-แมว กลับไปเป็นลูกจ้างตัดขนหมาตามร้าน ทำจนหมดสัญญาและเก็บตังค์ได้ก้อนหนึ่งประมาณหนึ่งปีก็กลับมาเปิดร้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราชช่วงปี 2562 เขาเริ่มซื้อบ้านและเปิดกิจการที่บ้านตัวเอง ลูกค้ามาใช้บริการเรื่อยๆ มาแบบพออยู่ได้

ต่อมา จึงเริ่มมาทำคลิปวิดีโอเพราะมีเวลาอยู่กับงานมากขึ้น ลูกค้าเอาหมา เอาแมวมา เขาบอกว่าหมาแมวเขาเรียบร้อย ไม่ดุ ไม่กัด ช่างท๊อปจึงตั้งใจจะถ่ายคลิปให้ลูกค้าดู ว่าลูกๆ ของพวกเขาอยู่กับช่างแล้วมีนิสัยคนแบบกับที่อยู่กับเจ้าของ ไม่เหมือนอย่างที่เจ้าของบอก ต่อมาก็ส่งคลิปวิดีโอให้เจ้าของเขาดู ลูกค้าบางคนเป็นเพื่อนในเฟสบุค หลังจากนั้นก็ทำคลิปวิดีโอไปเรื่อยๆ พอคลิปสนุก คนก็เริ่มรู้จักเรื่อยๆ ซึ่งก็มีคลิปไวรัลชื่อแมวน้องลูกจันทร์เป็นคลิปที่ทำให้คนรู้จักเพจค่อนข้างมาก

ปกติช่างท๊อปก็เล่นกับหมาอยู่แล้วทั้งชีวิต ตอนที่ทำเพจเฟสบุคก็เพื่อให้ลูกค้าเช็คอินที่ร้าน มีเพจตั้งแต่ปี 2562 ทำให้ไม่ต้องคอยบอกพิกัดร้านว่าอยู่ที่ไหน ทำให้ลูกค้าเดินทางมาใช้บริการง่ายขึ้น พอคลิปไวรัลก็มีลูกค้าเยอะขึ้น ในร้านก็มีช่างเพียงคนเดียว ก่อนโควิดระบาดรับบริการได้ 3-5 ตัวต่อวัน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ถ้าเป็นช่วงเทศกาล จะมีลูกค้าต่างจังหวัดจองคิวรับบริการค่อนข้างเยอะราว 5-10 ตัว

หลังโควิดระบาด ก็ไม่ได้รับลูกค้าจากต่างจังหวัดเลย ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันโควิดด้วย ถือว่ายอดลูกค้าหายไป 30-40% แต่ก็พออยู่ได้ ส่วนใหญ่ลูกค้าก็มักจะเลี้ยงหมา แมวเหมือนลูก จะพามาอาบน้ำ ตัดขนเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว โควิดก็ทำให้ลูกค้าประจำยังมาอยู่ บางคนที่เป็นลูกค้าก็ตกงาน ขาดรายได้ ทำให้ไม่ได้มาใช้บริการเหมือนเก่า ลูกค้าราว 50% ก็ยังมาใช้บริการอยู่ ทุกอาทิตย์ก็มาตลอด

ที่ร้านช่างท๊อปมีบริการอาบน้ำตัดขนทั้งหมาและแมว เรตราคาสำหรับการอาบน้ำอยู่ที่ 150 บาท อาบน้ำ-ตัดขน 300 บาท ระยะเวลาเว้นว่างสำหรับการตัดขนรอบใหม่ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน หมาจะอาบน้ำ ตัดขนเยอะกว่าแมว แมวมีคนเลี้ยงเยอะ แต่คนพาแมวเข้าร้านจะน้อย ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรอาบน้ำ เพราะแมวไม่ชอบน้ำ แต่แมวที่มาอาบน้ำที่ร้านเพราะเป็นสายพันธุ์ต่างประเทศมาอยู่ที่ไทย อากาศทำให้ขนเสีย แมวพื้นถิ่นจะไม่ต้องทำอะไรมากเพราะขนสั้น 

อาชีพที่รัก แต่ต้องแลกมาด้วยบาดแผลและความเจ็บปวด

ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ส่วนหมาที่เจ้าของพามาใช้บริการก็มีทุกช่วงวัย ถ้าอยากจะให้สัตว์เลี้ยงเข้าร้านได้ ต้องพาเขาเข้าร้านตั้งแต่เขายังเด็กเขาจะได้คุ้นชินกับบรรยากาศ ถ้าพูดถึงเรื่องอาบน้ำระหว่างหมากับแมว อาบน้ำแมวยากกว่าอาบน้ำหมามาก ช่างท๊อปจะโดนข่วนบ้าง  

อาชีพตัดขน อาบน้ำหมา-แมวนี้จะโดนหมาแมวกัดตลอดชีวิต เป็นความเคยชินของอาชีพ ถ้ามีสัตว์เลี้ยงตัวไหนที่ดุหน่อยช่างท๊อปพบว่า แมวจะมีจังหวะที่ทำให้จับได้บ้าง สามารถจับได้ สัตว์แต่ละตัวจะมีจุดอ่อนของตัวเอง ถ้าแมวดุมาใช้บริการสักสิบครั้ง เราอาจจะให้บริการ อาบน้ำ ตัดขนได้สักเจ็ดครั้ง ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องโทรให้เจ้าของมารับกลับ ถ้าโดนกัดหนักๆ คิดว่าครั้งต่อไปทำได้ ก็จะไม่บอกลูกค้า แต่ถ้าโดนกัดหนักๆ รอบต่อไปทำไม่ได้ก็จะบอกลูกค้า

ช่างท๊อปเล่าว่าถูกกัด ถูกข่วนบ่อย ปกติร้านแต่ละร้านจะรับลูกค้าไม่เหมือนกัน โดยปกติช่างจะรับลูกค้ามาก่อน ทำได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที ถ้าเป็นสัตวแพทย์ก็จะมีการวางยาซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หน้าที่นี้สัตวแพทย์ก็จะทำเองอยู่แล้ว เพราะตัดขนค่อนข้างยาก ตอนนี้ที่ร้านก็มีช่างอยู่คนเดียว มีแฟนก็มาช่วยอาบน้ำให้ด้วย

สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ ต้องบอกว่าแม้เจอโควิดก็ยังอยู่ได้ แต่ถ้าสถานการณ์หนักกว่านี้น่าจะแย่เหมือนกันเพราะจะกระทบลูกค้า ถึงแม้ลูกค้าจะรักลูกของเขาแต่ไม่มีเงินก็ไม่สามารถมาร้านได้ จากเดือนละครั้งก็กลายเป็นสามเดือนครั้ง ถ้าเป็นลูกค้าที่ฐานะดีมากก็จะไม่หายไป

สำหรับต้นทุนที่แพงที่สุดคืออุปกรณ์ทำงานและร่างกายที่หากถูกกัดหนักๆ ก็จะทำงานไม่ได้ กัดหนักๆ มักจะเป็นหมา บางตัวลูกค้าไม่ได้บอกว่าเขาดุ ก็ไม่ทันระวังตัว ถ้าหมาแมวดุ ลูกค้าต้องแจ้งก่อน แต่บางครั้งลูกค้าเขาก็กลัวไม่รับบริการ อาจจะถูกปฏิเสธจากที่อื่นบ้าง เขาจะบอกว่าน้องไม่ดุหรอก จากประสบการณ์ช่างท๊อปเองก็จะรู้ว่าตัวไหนดุ ตัวไหนไม่ดุ บางตัวอาจจะประมาทเอง บางครั้งก็จะระวังตัวป้องกันได้

สำหรับเรื่องทุนสำหรับการทำธุรกิจตัดขนหมา-แมว มีทั้งค่าอุปกรณ์, ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าผ่อนบ้าน, ค่าเช่าร้าน, ค่าเดินทาง, ค่าทีมงาน และที่สำคัญก็ต้องมีค่ารักษาตัวเองเมื่อได้รับความบาดเจ็บทางร่างกายขณะทำงานด้วย

ส่วนสายพันธุ์หมาที่นำมาอาบน้ำบ่อยสุดในร้าน คือหมาพันธุ์ปอมเมเรเนียน, ไซบีเรียน ฮัสกี้ ส่วนแมวก็มีพันธุ์เปอร์เซีย สก็อตติชโฟลด์

ตอนนี้ร้านช่างท๊อป ด็อกอาร์ทเปิดอยู่สองแห่ง ต่างอำเภอกัน สาขาแรกอยู่ในอำเภอเมือง ซอยศรีธรรมโศก 2 แยก 4 จ. นครศรีธรรมราช อีกสาขาหนึ่งอยู่อำเภอสิชล ตำบลสิชล ไม่ห่างจากหาดสิชล 500 เมตร อยู่ใกล้ทะเล (สิชลห่างจากเมือง 70 กก) เป็นอีกสาขาหนึ่งกำลังเตรียมเปิดอยู่ ไม่แน่ใจว่าจะได้เปิดไหม ถ้าสถานการณ์โควิดเบาลงอาจจะได้เปิดสิ้นเดือนกรกฎาคม

วิธีบริหารสองร้านนี้ก็ใช้วิธีอยู่ในเมือง 3 วัน อยู่ทะเล 2 วัน คือสลับที่กัน เวลาทำงานก็รับลูกค้าจองอย่างเดียว ไม่รับลูกค้า walk in เลย เฉพาะแค่ลูกค้าจองก็คิวยาวแล้ว เวลารับบริการมาสักตัวต้องถามรายละเอียดก่อน เช่น ตัดขนอยู่ หมาช็อคคาโต๊ะ ต้องเช็คว่าหมามีโรคประจำตัวไหมเพื่อจะดูว่าเราจะให้บริการเขาอย่างไรได้บ้าง 

ฝากถึงคนรักสัตว์ ก่อนจะเลี้ยงสัตว์ ต้องศึกษานิสัยใจคอก่อน อย่าดูแต่ความน่ารัก

ช่างท๊อปฝากบอกถึงคนรักสัตว์ทั้งหลาย ถ้าจะเลี้ยงหมา เลี้ยงแมวต้องศึกษานิสัยใจคอพวกเขาก่อน พราะพวกเขาถูกทิ้งเยอะ เช่น หมาพันธุ์ไซบีเรียนถูกทิ้งเยอะมาก เพราะเจ้าของไม่รู้จักนิสัยเขา เขาซนมาก และพื้นที่บ้านต้องกว้างมาก

หมาแมวทุกตัวน่ารักหมด ให้ศึกษาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตก่อน อย่าเอาความน่ารักเป็นที่ตั้ง ต้องดูนิสัยและความพร้อมของตัวผู้เลี้ยงด้วย บางทีค่ารักษาเป็นหมื่น เหมือนคนเลี้ยงแมว อยากเลี้ยงแมวขนยาว ขนสวยแต่คนเลี้ยงแพ้ขน ขนแมวร่วงเต็มบ้าน จะเลี้ยงสัตว์อะไร ศึกษาให้ดีก่อนเลี้ยง หมาแมวแต่ละสายพันธุ์ เลี้ยงคนละแบบ พยายามเลี้ยงแมวหมาพื้นถิ่นดีที่สุดเพราะเขาปรับตัวง่ายไม่มีรายละเอียดมาก

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา