เมื่อพูดถึงเครื่องปรุงอาหาร หลายคนจะนึกถึงขวดซีอิ๊วที่มีรูปเด็กรูปร่างอ้วนกอดขวดอยู่เป็นอย่างแรก ๆ นั่นคือสัญลักษณ์ที่คุ้นเคยของเครื่องปรุงรสและซอส ‘ตราเด็กสมบูรณ์’ ที่เป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดเครื่องปรุงรสของไทยมากว่า 75 ปีแล้ว
แม้ว่าธุรกิจจะดำเนินมาหลายสิบปี แต่ตราเด็กสมบูรณ์ก็ยังเป็นสินค้าคู่ครัวไทยที่พอพูดถึงแล้วใคร ๆ ก็รู้จัก แล้วอะไรเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ตราเด็กสมบูรณ์มีรากฐานมั่นคงในอุตสาหกรรอาหารจนมาถึงปัจจุบันนี้?
ตราเด็กสมบูรณ์มีที่มายังไง?
แนวคิดเริ่มต้นของการทำธุรกิจเครื่องปรุงและซอสสะท้อนผ่านโลโก้เด็กรูปร่างอ้วนบนขวดซีอิ๊วที่เป็นรูปวาดจากจิตรกรชาวจีน ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์หรือ AI สื่อถึงความอร่อยของการกินอาหารคู่กับเครื่องปรุงที่ทำให้เด็กเจริญอาหารจนมีรูปร่างอ้วนท้วม
- 1947 ซีอิ๊วขาว ตราเด็กสมบูรณ์อยู่ภายใต้บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยนายถ่ง แซ่ตั้ง หลังจากอพยพมาจากจีนและตั้งโรงงานแห่งแรกขึ้นบนถนนสีลม ในช่วงเริ่มแรกเป็นธุรกิจภายในครอบครัวตั้งสมบัติวิสิทธิ์ที่ทำกันเองทั้งการคิดสูตร การหมัก ไปจนถึงการบรรจุขวดขาย
- ปี 1950 เป็นปีที่ถือกำเนิดโลโก้เด็กสมบูรณ์ที่เราเห็นกันในปัจจุบัน เกิดจากที่นายถ่งต้องการสร้างแบรนด์ดิ้งของธุรกิจ จึงได้จ้างจิตรกรชาวจีนออกแบบโลโก้เพราะในสมัยนั้นยังไม่มีนักออกแบบหรือสร้างแบรนด์สินค้า จากนั้นได้จดทะเบียนการค้าและสร้างแบรนด์ “ตราเด็กสมบูรณ์” ขึ้นมา
- ปี 1953 นายถ่งเสียชีวิต การดูแลธุรกิจเลยได้ตกทอดมาถึงทายาทรุ่นที่ 2
- ปี 1980 ได้ยกระดับกระบวนการผลิตขึ้นจากเดิมที่ทำกันเองในครอบครัวให้มีมาตรฐานมากขึ้นจากการบินไปดูงานที่โรงงานผลิตซีอิ๊วในญี่ปุ่น และเปลี่ยนจากระบบครอบครัวเป็นระบบองค์กรจนมาสู่การตั้งโรงงานครั้งแรกของตราเด็กสมบูรณ์ในจังหวัดสมุทรสาคร
- ปี 1885 เริ่มส่งออกซีอิ๊วขาวและเต้าเจี้ยว กลายเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นผู้นำในตลาดของไทย
- ปี 1997 ก่อตั้งโรงงานแห่งที่ 2 ขึ้นในจังหวัดระยอง และทายาทรุ่นที่ 3 เข้ามารับช่วงต่อกิจการ
- หลังจากธุรกิจอยู่ภายใต้การบริหารของทายาทรุ่นที่ 3 ช่วงนี้เองที่ตราเด็กสมบูรณ์ได้ออกสินค้าต่าง ๆ นอกจากซีอิ๊วขาวและเต้าเจี้ยว เช่น น้ำปลา ซอสหอยนางรม ผงชูรส พร้อมทั้งออกไลน์ผลิตภัณฑ์ i–Chef ขึ้นมาใหม่ จนจากเดิมที่มีแค่เครื่องปรุงก็ได้เข้าสู่ตลาดอาหารหวานที่มาจากแนวคิดของเครื่องปรุงด้วยอย่างไอศกรีมซีอิ๊วดำ
ตราเด็กสมบูรณ์ทำรายได้ขนาดไหน?
ถึงจะขายเครื่องปรุงติดบ้าน แต่รายได้ของตราเด็กสมบูรณ์ไม่ใช่บ้าน ๆ เพราะในปีที่แล้ว หยั่น หว่อ หยุ่น ครอบครองส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 31% หรือมีมูลค่าราว 1,700 ล้านบาท
ลองมาดูข้อมูลรายได้และกำไรของบริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด ย้อนหลังกันดูบ้าง
- ปี 2022 รายได้ 3,948,648,152 บาท กำไร 719,369,069 บาท กำไรเพิ่มขึ้น 48.89%
- ปี 2021 รายได้ 3,735,278,332 บาท กำไร 483,131,860 บาท กำไรเพิ่มขึ้น 26.38%
- ปี 2020 รายได้ 3,475,453,176 บาท กำไร 382,256,358 บาท กำไรเพิ่มขึ้น 8.6%
แม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่มีอายุกว่า 75 ปีแล้ว แต่ตราเด็กสมบูรณ์ก็ยังมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นสินค้าที่ยังได้รับความนิยมจากคนไทยและมีรายได้จากการส่งออกไปขายต่างประเทศมากกว่า 50 ประเทศ
กลยุทธ์ธุรกิจของตราเด็กสมบูรณ์
มีความยืดหยุ่น พร้อมปรับตัว
จากความเป็นมาของหยั่น หว่อ หยุ่น จะเห็นได้ว่าจุดแข็งอย่างหนึ่งมาจากความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจ และความพร้อมที่จะปรับตัว จากเดิมที่ขายเพียงแค่ซีอิ๊วขาวและเต้าเจี้ยว แต่ในช่วงหลังเพิ่มโอกาสในตลาดการแข่งขันให้มากขึ้นจากเครื่องปรุงรสชนิดอื่น ทั้งซอสหอยนางรม น้ำปลา ผงชูรส ฯลฯ
ตราเด็กสมบูรณ์ยังได้แตกไลน์สินค้า i-Chef ที่เป็นเครื่องปรุงรสสำเร็จรูปที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารมากนัก มาจนถึงการขขายไอศกรีมที่ปัจจุบันมีทั้งรสซีอิ๊วดำพีนัท รสซีอิ๊วดำบัตเตอร์ รสบ๊วย และรสเต้าเจี้ยว จากการต่อยอดผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงที่เป็นที่ไว้วางใจในตลาดมาก่อนอยู่แล้วให้เกิดเมนูใหม่ ส่งเสริมการขาย
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มสินค้าที่ดีต่อสุขภาพรับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาด้วย เช่น น้ำจิ้มสุกี้คีโต ซอสหอยนางรมลดโซเดียม ซอสหวานสูตรลดน้ำตาล
ขยายฐานลูกค้าสู่คนรุ่นใหม่
ตราเด็กสมบูรณ์เป็นแบรนด์เครื่องปรุงรสที่ได้รับการจดจำจากคนรุ่นก่อนมาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่แบรนด์ให้ความสำคัญและทำเพิ่ม คือ การพยายามขยายฐานลูกค้า รีแบรนด์ดิ้งให้เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
เมื่อปลายปีที่แล้ว ตราเด็กสมบูรณ์ได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์เป็นครอบครัวตันจรารักษ์ ประกอบด้วยบีม-กวี ออย-อฏิพรณ์ รวมถึงคู่แฝดพีร์-ธีร์ ที่กำลังโด่งดังในหมู่คนรุ่นใหม่ พร้อมนำภาพคู่แฝดทั้งคู่ไปใส่บนโลโก้บริเวณคอขวดของผลิตภัณฑ์ซีอิ๊วขาว น้ำปลาแท้ ซีอิ๊วดำ และซอสหอยนางรม ช่วยสร้างภาพลักษณ์ของการเป็นแบรนด์สำหรับคนทุกรุ่น และสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ต่อคนรุ่นใหม่
ทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์
นอกจากการขายส่ง การขายผ่านทางหน้าร้าน ตราเด็กสมบูรณ์ได้เพิ่มช่องทางการทำการตลาดและการขายทางออนไลน์เพิ่มโดยเฉพาะทาง TikTok ที่ปัจจุบันมีผู้ติดตามมากกว่า 62,000 คน มียอดไลค์อยู่ที่ 1.9 ล้านครั้ง
TikTok เป็นพื้นที่ให้แบรนด์ทำการตลาดและโฆษณา รวมทั้งยังเป็นช่องทางให้คนรับรู้เรื่องราว ความเป็นมาของธุรกิจมากขึ้นด้วย มีคอนเทนต์ที่ทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย ทั้งการเล่าถึงความเป็นมาของโลโก้ วิดีโอเกี่ยวกับการทำงานกับบริษัท และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้าและกิจกรรมต่าง ๆ ไปจนถึงขั้นตอนการขาย
ที่มา – SME Thailand Club, DBD, ตราเด็กสมบูรณ์
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา