ฉายภาพดาต้าเซ็นเตอร์กับ DayOne ที่ลงทุน 1,000 ล้านเหรียญ สร้างศูนย์ข้อมูลรับกระแสดิจิทัลในไทย

การเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลกลายเป็นเรื่องจำเป็นของทุกองค์กร และทำให้โอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเรื่องนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจศูนย์ข้อมูล หรือดาต้าเซ็นเตอร์ ที่ประเทศไทยกำลังถูกวางเป็นอีกพื้นที่สำคัญในการให้บริการในภูมิภาคอาเซียน จากเดิมที่มาเลเซีย และสิงคโปร์ครองเรื่องนี้มาโดยตลอด

ตัวอย่างล่าสุดคือกรณีของ DayOne บริษัทสตาร์ตอัปจากสิงคโปร์ที่มี GDS ยักษ์ใหญ่ในเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์จากจีนเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น โดยบริษัทนี้เข้ามาลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34,000 ล้านบาท เพื่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์บนพื้นที่กว่า 1.22 แสน ตร.ม. ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไม DayOne ถึงเลือกประเทศไทย รวมถึงรายละเอียดเชิงลึกของการลงทุนครั้งนี้จะประกอบด้วยอะไรบ้าง Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ Jamie Khoo ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DayOne และได้คำตอบมาดังนี้

DayOne

จุดเริ่มต้นของ DayOne

Jamie Khoo ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DayOne เล่าให้ฟังว่า DayOne เริ่มต้นธุรกิจในประเทศสิงคโปร์หลังได้รับใบอนุญาตให้บริการในปี 2023 ก่อนขยายออกไปที่มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง และญี่ปุ่น จนศูนย์ข้อมูลทั้งหมดที่ให้บริการมีกำลังรวม 480 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ในปี 2024 บริษัทได้ยังรับเงินลงทุนระดับซีรีส์บีรวมมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 40,000 ล้านบาท จากนักลงทุน เช่น SoftBank Vision Fund เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับ 1 กิกะวัตต์ ในอนาคต

“การขยายธุรกิจไปในประเทศต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว รวมถึงการระดมทุนครั้งใหญ่ที่มากกว่ามูลค่าเบื้องต้นที่คาดการณ์ไว้มาจากจุดเด่นเรื่องการทำราคาที่แข่งขันได้ รวมถึงการสร้างระบบนิเวศของการใช้งาน และซัพพลายเชนต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกภาคส่วน ทั้งยังเสริมความสามารถของแรงงานให้มีทักษะที่ตอบโจทย์เรื่องการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล และ AI จน DayOne สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และในอนาคตเตรียมขยายบริการไปที่กรุงปักกิ่ง รวมถึงประเทศไทยอีกด้วย”

จากพื้นที่ให้บริการดังกล่าว ทำให้ DayOne ค่อนข้างตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการทำธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงเอเชียตะวันออก ผ่านการตั้งศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ที่ประเทศมีจำนวนประชากรอยู่จำนวนมาก เมื่อประกอบกับอาเซียนเป็นตลาดเกิดใหม่ที่หลายองค์กรต้องการเข้ามาดำเนินธุรกิจ จึงเป็นอีกโอกาสทางธุรกิจสำคัญของ DayOne ในการสร้างการเติบโตระยะยาวผ่านเครือข่ายที่ครอบคลุมเกือบทั้งภูมิภาคนี้ ซึ่งการลงทุนมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ในประเทศไทยก็ทำให้แผนนี้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก

ลงทุนไทยระยะเวลา 5 ปี แบ่งเป็นหลายเฟส

หากเจาะไปที่การลงทุนในประเทศไทยจะพบว่า DayOne จะเริ่มก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในระยะแรก (เฟส 1) แล้ว และจะเสร็จสิ้นช่วงไตรมาส 2 ของปี 2026 โดยเหตุผลที่ทำได้รวดเร็วเพราะมีประสบการณ์ในการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคนี้หลายแห่ง รวมถึงมีความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ท้องถิ่นเป็นอย่างดี และที่สำคัญคือมีหน่วยงานภาครัฐในประเทศไทยให้การสนับสนุน เช่น คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI รวมถึงการใช้งานข้อมูลหลากหลายรูปแบบที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้เช่นกัน

สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยจะขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า 180 เมกะวัตต์ อยู่บนพื้นที่ขนาด 1.22 แสนไร่ ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ส่วนระยะที่สองอยู่ระหว่างหารือ แต่เบื้องต้นจะใช้ที่ดินในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน และจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป รองรับการใช้งานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI), Cloud Computing และบริการดิจิทัลประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์นโยบายที่ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนเรื่องดิจิทัลเต็มรูปแบบในปัจจุบัน

ส่วนในมุมลูกค้า DayOne ตั้งเป้าหมายมีทั้งลูกค้าในประเทศไทย และบริษัทข้ามชาติต่าง ๆ คล้ายกับการให้บริการในหลากหลายประเทศก่อนหน้านี้ และอีกเหตุผลที่เลือกประเทศไทยเป็นอีกดาต้าเซ็นเตอร์สำคัญ ไม่ใช่ประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน เพราะเรื่องค่าแรง, ความเชี่ยวชาญในเรื่องการก่อสร้าง รวมถึงทักษะของแรงงาน และความเหมาะสมของภูมิภาคที่อยู่ตรงกลางของอาเซียนอีกด้วย ทั้งยังนับเรื่องจำนวนประชากรที่ยังมากเป็นอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคอาเซียนได้เช่นกัน

ย้ำไม่ใช่ผู้เล่นจากจีน

Jamie Khoo เสริมว่า DayOne ไม่ใช่บริษัทดาต้าเซ็นเตอร์จากประเทศจีนเหมือนที่ถูกในสื่อต่าง ๆ กล่าวอ้าง เพราะบริษัทวางตำแหน่งเป็น Independent Global Data Center ที่ให้บริการในประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย โดยหลังจากระดมทุนรอบซีรีส์บีได้แล้ว บริษัทมีการพิจารณาการระดมทุนด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น IPO เนื่องจากธุรกิจศูนย์ข้อมูลต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก การได้มาซึ่งเงินทุนจำนวนมากจึงจำเป็นในการเติบโตในอนาคต แต่รายละเอียดเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน

Brand Inside มองว่า การเข้ามาลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยของ DayOne เป็นอีกจุดชี้วัดในเรื่องการใช้งานข้อมูลจำนวนมากในไทย รวมถึงตำแหน่งของไทยที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียน ช่วยให้การเชื่อมโยงระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ต่าง ๆ ของ DayOne ที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านจนกลายเป็น SIJORI (Singapore, Johor, and Riau Islands) หรือศูนย์กลางข้อมูลระดับโลกด้วยการเชื่อมโยงศูนย์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และสามารถต่อยอดไปเป็น ผู้ให้บริการ Hyperscaler ได้

อย่างไรก็ตาม การให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ยังมีหนึ่งปัญหานั่นคือค่าไฟที่ค่อนข้างสูง เพราะเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่ DayOne ให้บริการอยู่นั้นยังสูงกว่า และหากปรับลดลงได้จริงน่าจะดึงดูดทุนต่างชาติเข้ามาให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ได้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวตรงกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยชุดนี้ที่ต้องการดึงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีให้มากกว่าเดิม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา