CPN ร่วมทุน Common Ground ลุยโคเวิร์กกิ้งสเปซ เติมจิ๊กซอว์ไลฟ์สไตล์ให้รีเทล

CPN ประกาศร่วมทุนกับ Common Ground โคเวิร์กกิ้งสเปซจากมาเลเซียประเดิมสาขาแรกในไทยที่เซ็นทรัลเวิล์ดต้นปีหน้ากลยุทธ์ติมเรื่องไลฟ์สไตล์ให้มากกว่าการช้อปปิ้งสร้างคอมมูนิตี้ให้รีเทล

ผนึก Common Ground เปิด Co-working Space ในศูนย์การค้า

ถ้าพูดถึง Co-working Space ยังคงเป็นเทรนด์ที่ยังคงร้อนแรงอยู่ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีผู้เล่นจากต่างประเทศแห่เข้ามาทำตลาดในไทยอยู่ตลอด เพราะการเติบโตของสตาร์ทอัพ หรือธุรกิจ SME ช่วยเสริมให้ธุรกิจนี้เติบโต

กลายเป็นเทรนด์ที่ธุรกิจรีเทลก็ต้องลงมาจับด้วยเช่นกัน เห็นได้ว่าศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์หลายๆ แห่งได้ชูจุดขายด้วยการเปิด Co-working Space รับกับไลฟ์สไตลืของผู้บริโภคในยุคนี้ที่ชอบทำงานนอกบ้าน หรือเช่าออฟฟิศเล็กๆ สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ

ล่าสุดทางเซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN ได้ประกาศลุยในธุรกิจนี้บ้าง ด้วยการจับมือกับ Common Ground เปิดตัว บริษัท คอมมอน กราวนด์ ไทยแลนด์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นเป็น CPN 51% Common Ground 29% และ MSB Asia (สถาบันทางการเงินในมาเลเซีย) 20%

Common Ground เป็น Co-working Space สัญชาติมาเลเซีย ได้ก่อตั้งในเดือนมีนาคม 2017 ตอนนี้มีสมาชิก 1,400 คน ใน 6 สาขาซึ่งอยู่ในเมืองกัวลาลัมเปอร์ และเมืองใกล้เคียง มีแผนที่จะเปิดให้ครบ 15 สาขาทั่วมาเลเซียในปี 2018 ล่าสุดได้ขยายตลาดมาที่ประเทศไทย และฟิลิปปินส์ ตั้งเป้ามี 55 สาขาภายในปี 2020

ทำไม CPN ต้องลุยทำ Co-working Space

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลได้มีการปรับตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ ยิ่งกลุ่มศูนย์การค้าอย่าง CPN มีการปรับตัวอย่างหนัก เพระาด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีการเข้ามาของอีคอมเมิร์ซ

CPN ได้ทำการสร้างโจทย์ใหม่ให้ตัวเองเป็น Center of Life นั่นคือเป็นศูนย์กลางของการใช้ชีวิตในทุกๆ อย่าง ไม่ใช้แค่มาศูนย์การค้าเพื่อช้อปปิ้งอย่างเดียวเหมือนในอดีต

ความท้าทายของ CPN จึงต้องทำการเติมคอนเทนต์เพื่อรับกับความต้องการของผู้บริโภคเป็นคอนเทนต์ที่เสริมไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันในทุกๆด้าน

การเติม Co-working Space เข้ามาในศูนย์การค้าของ CPN ในครั้งนี้จึงเป็นการรับไลฟ์สไตลือขงคนรุ่นใหม่ที่ทำงานนอกบ้านนอกออฟฟิศหรือเทรนด์ของธุรกิจสตาร์ทอัพ

ดรณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชนกล่าวว่า 

จากวิสัยทัศน์การสร้าง Center of Life ในการเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ จึงขยายไลน์ธุรกิจใหม่แบรนด์ Common Ground โคเวิร์กกิ้งสเปซเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นคอมมูนิตี้เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการหัวคิดใหม่ ด้วยการร่วมทุนกับ คอมมอน กราวด์ กรุ๊ป แบรนด์โคเวิร์กกิ้งสเปซจากมาเลเซีย เพื่อตอบรับเทรนด์ coworking space และ sharing economy กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ใน 10 ปีข้างหน้า และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของธุรกิจโคเวิร์กกิ้งแห่งใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ความสำคัญของการทำ Co-working Space ของ CPN ในครั้งนี้ คือการสร้างคอมมูนิตี้ขึ้นมาในศูนย์การค้า เป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ในการทำโครงการ Mix-use เช่นกัน ซึ่ง Co-working Space เป็นการสร้างคอมมูนิตี้สำหรับคนทำงานที่มีกำลังซื้อ

ณัฐกิตติ์บอกว่า อีกหนึ่งโจทย์ที่สำคัญคือเรื่องของทราฟิกคนเข้าศูนย์การค้า ปกติคนจะมาที่ศูนย์ในวันหยุด เลยมีความคิดว่าให้เขามาในวันธรรมดามากขึ้น การทำ Co-working Space จึงเป็นโมเดลใหม่ในการหล่อเลี้ยงทราฟิกคนเข้าศูนย์การค้าให้สูงทุกวัน

ปกติแล้วทราฟิกคนเข้าศูนย์การค้าของ CPN เฉลี่ยในวันธรรมดา 120,000 คน วันเสาร์อาทิตย์ 150,000 คน ส่วนวันที่มีงานอีเวนต์ 170,000 คน

ถ้ามี Co-working Space เข้ามาเสริมจะทำให้มีทราฟิกในวันธรรมดามากขึ้น และช่วยสร้าง Ecosystem ให้อยู่ในศูนย์ได้ทั้งวัน

Co-working Space แนวโน้มโตสูงต่อเนื่อง

ทางด้าน อิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขาย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเทรนด์ของโคเวิร์คกิ้งสเปซในไทยว่า

ในปัจจุบันมีกลุ่มบริษัทโคเวิร์กกิ้งสเปซระดับนานาชาติจากต่างประเทศหันมาปักหมุด และลงทุนในประเทศไทย โดยปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ เมกะเทรนด์ที่ไลฟ์สไตล์การทำงานของผู้คนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปตาม Technology และ Flexibility โดยต้องการพื้นที่ทำงานที่มีความเป็น Collaborative Workspace รวมถึงการลดต้นทุนทางธุรกิจทำให้รูปแบบการทำงานของผู้ประกอบการ และบริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลกจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยคาดว่าตลาด coworking space ในเอเชีย จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 30%ในปี 2030 จากปัจจุบันที่มีตลาดอยู่ที่ 2% 

รวมถึงอัตราการเติบโตของตัวเลข SME ในประเทศไทย ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง 8-10% ต่อปี มากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยกว่า 1 ใน 6 มีธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ หรือคิดเป็นกว่า 500,000 ราย โดย SME เหล่านี้ ล้วนแต่มองหาสถานที่ทำงานในทำเลที่ดี หรือ prime location แต่การเข้าถึงออฟฟิศให้เช่าเกรด A ในกรุงเทพฯ เป็นไปได้ยากและมีราคาสูง เช่นเดียวกับบริษัทใหญ่ๆ ที่ต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ทำให้โคเวิร์กกิ้งในรูปแบบของคอมมอน กราวด์ จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในเข้าถึงสถานที่ทำงานรูปแบบใหม่

ทุ่ม 800 ล้าน ขยาย 20 สาขาใน 5 ปี

การเปิดตัว Common Ground ในประเทศไทยนี้ถือเป็นการเปิดตัวในต่างประเทศเป็นประเทศที่ 3ในภูมิภาคนี้ โดยจะเป็นรีจินัลแฟลกชิพแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยขนาดพื้นที่ 4,500 ตร.. สาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิล์ด

แผนการขยายสาขาในไทยนั้น ได้ตั้งเป้าการลงทุน 800 ล้านบาท เปิด 20 สาขาใน 5 ปี โดย 10 สาขาจะตั้งอยู่บน Prime Location ในกรุงเทพฯ ที่อยู่ในอาคารสำนักงานที่เชื่อมต่อกับศูนย์การค้าของ CPN หรืออาคารสำนักงานให้เช่าอื่นๆรวมถึงสาขาในหัวเมืองสำคัญเช่นเชียงใหม่ภูเก็ตและพัทยาเป็นต้น

กลุ่มเป้าหมายของ Common Ground ได้แก่ ผู้ประกอบการ SME กลุ่มสตาร์ทอัพ และฟรีแลนซ์ 80% และกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความต้องการทำงานในโคเวิร์กกิ้งสเปซ 20% 

สรุป

ถือเป็นการเติมคอนเทนต์ด้านไลฟ์สไตล์ให้กับศูนย์การค้าของรีเทลของ CPN ให้แน่นขึ้น เป็นการแก้โจทย์เรื่องของทราฟิกเข้าห้าง โดยสร้างคอมมูนิตี้ของคนทำงานใน Co-working Space ยังคงเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา